Thursday, January 9, 2014

แด่เธอผู้เสียสละ วีรศักดิ์ จิตหลัง

วันนี้ ขอนำเรื่องราวของทหารกล้า วีรบุรุษชุดดำ ซึ่งคัดลอกมาจากกระทู้ในเว็ปพันธ์ทิพย์ http://pantip.com/topic/31354644 มาให้ได้อ่านเพื่อจะได้ตระหนักถึงชีวิตของนักรบชุดดำในภาคใต้
ทพ.วีรศักดิ์ จิตหลัง

และข้างล่างต่อไปนี้คือเรื่องราวที่เพื่อนของเขาถ่ายทอดให้พวกเราได้รับรู้กัน

"วี" วีรศักดิ์ จิตหลัง เด็กหนุ่มจากจังหวัด สตูล วัย 22 ปี หลังก้าวผ่านรั้วมหาวิทยาลัย โดยที่ยังไม่ได้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ได้หันหน้าเข้าสู่การสมัครเป็นอาสาสมัครทหารพรานในจังหวัดปัตตานี ผมเเละเขาได้รู้จักกันบนเส้นทางสายนั้น วันที่ได้คุยกันเป็นครั้งแรก ผมเเละวี เจอกันที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เราทั้งคู่ต่างรอต่อรถตู้โดยสารประจำทางสาย หาดใหญ่ นราธิวาส เพื่อเดินทางไปรายงานตัวกับหน่วย ที่ ปัตตานี วี เป็นคนเป็นคนทักทายผมก่อนพร้อมทั้งยื่นขนมมาให้กิน เราคุยกันไปเรื่อยเปื่อยเพื่อรอเวลารถออก สิ่งที่ผมได้รู้จากปาก วี ตอนนั้น พ่อ เเม่ ญาติพี่น้องเขาไม่รู้ว่า วี สมัครเป็นทหารพรานที่ปัตตานี ซึ่งเหมือนกันกับผม

ในขณะที่อยู่ในห้วงแห่งการฝึก ถึงแม้เราจะอยู่ในกองร้อยเดียวแต่ในขณะนั้นมันไม่ได้มีเวลาในเราได้คุยกันเท่าไหร่ วี เป็นอาสาสมัครทหารพราน 1 ใน 4 คน ของกองร้อยที่เรียนจบระดับปริญญาตรี หลังจากได้ไปปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเดียวกัน เราทุกคนในกองร้อยเริ่มสนิทกันมากขึ้น จนเหมือนเป็นพี่น้อง หากในกองร้อยมีการจัดอันดับกำลังพลที่มีคุณภาพอยู่ในแถวหน้า วี คือหนึ่งในนั้น ถ้าในภารกิจครั้งใดที่มีความเสี่ยงเเละมีความสำคัญ วี จะเป็นอีกหนึ่งคนที่จะถูกเลือกให้ร่วมปฏิบัติภารกิจ

หลายครั้งที่เราทำงานด้วยกันไม่ว่า จะเป็นปิดล้อม ลาดตระเวร ซุ้ม ความฝันต่างๆของเพื่อนวี ถูกถ่ายทอดให้ฟังจากปากตัวเอง "วี" ไม่เคยบอกว่าตัวเอง "รักชาติ" ไม่เคยบอกว่าตัวเองทำเพื่อใครหรือทำไปทำไม แต่เหตุผลเหล่านี้ไม่สำคัญไปกว่าการทำหน้าที่อย่างเต็มที่

ในหน่วย วี ทำได้ทุกอย่าง ทั้งด้านการทหาร เเละด้านอื่นๆ เช่น งานเอกสาร ธุรการ ช่วยชาวบ้านทำนา ดำนา พ่อครัว วี ได้รับฉายาว่า "ไอ้วี ปลาโอ" จากเมนูอาหารที่วีชอบทำหากวันไหนได้รับหน้าที่เป็นพ่อครัว คือ ปลาโอต้มกับน้ำปลา ผมเคยถามว่าทำไมถึงชอบทำเมนูนี้ มันบอกว่า "เพราะทำง่ายดี" มีอยู่เช้าวันนึง เป็นอีกหนึ่งมื้อที่วีต้องรับผิดชอบการเป็นพ่อครับ วีจึงจัดเมนูที่เป็นตำนานที่ไม่มีใครกล้าทำตามคือ ต้มไข่เเจกคนละ 2 ฟอง ทั้งหน่วย กินกับข้าวสวยเย็นๆที่เหลือจากมื้อเย็นวาน ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้กอง จากเมนูนี้จึงทำให้วีได้รับเสียงชมเชยเป็นสารพัดสัตว์จากผู้กอง

จากที่ได้บอกไปเเล้วว่า วี ทำได้หลายอย่าง อีกงานหนึ่งที่วีชื่นชอบคือการตักไอครีมเเจกเด็กๆในหมู่บ้าน จนไอ้วีของเพื่อนได้เป็น พี่วีของเด็กน้อย

ด้านการเกษตรช่วยชาวบ้าน วี ทำได้ทุกอย่างตั้งแต่ ดำนา ไถนา เกี่ยวข้าว เรียกได้ว่าทุกขั้นตอนของการทำนา ในภาพขณะช่วยเกี่ยวข้าวชาวบ้าน

วี เป็นเพื่อนในหน่วยที่รักสวยรักงามที่สุด เป็นเพื่อนคนเดียวที่ใช้น้ำหอม มีอุปกรณ์ในการเสริมหล่อ ครีมทาผิว มีเพื่อนบอกมันว่าหน้าตาคล้ายกับวินัย ไกรบุตร วี อาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 รอบ ซึ่งต่างกับผม ที่อาบน้ำวันละรอบเดียวคือเฉพาะก่อนเข้านอน มันเคบพูดกับผมเล่นๆว่า "มันเป็นคนตัวดำต้องอาบน้ำบ่อยๆถึงทำตัวสะอาดคนก็ยังมองว่าสกปรก ต่างกับผมที่ผิวค่อนข้างขาว ทำตัวสกปรกคนก็มองว่าสะอาด" จากนิสัยรักสวยรักงาม เครื่องเเบบทหารของวีทุกชุดจะได้รับการซักรีดอยู่เสมอ ต่างกับผมอีกเช่นกันที่ไม่เคยรีดเครื่องเเบบเลย เครื่องแบบที่ได้รับแจกจากหน่วยวีจะต้องเอาไปแก้ทรงเพื่อให้เข้ารูปดูดีเวลาใส่ วีจึงเป็นเพื่อนทหารที่ได้รับเลือกเสมอเมื่อมีการคัดเลือกกำลังพลเพื่อต้อนรับคณะจากต่างหน่วย

หน่วยเราเข้าประจำการในพื้นที่หมู่บ้านแรกที่ได้รับผิดชอบ ในเดือนมกราคม 51 แรกๆที่เข้าพื้นที่นั้นพวกเราต้องแต่งเครื่องแบบทหารราบปกติคือเครื่องแบบลายพรางเหมือนในภาพ เพราะชาวบ้านในพื้นที่นี้หวาดกลัวทหารพรานมาก กว่าพวกเราจะปรับเปลี่ยนทัศนคติของชาวบ้านให้ดีขึ้นจนเปลี่ยนไปใส่เครื่องแบบทหารพรานสีดำได้ต้องใช้เวลาเกือบครึ่งปี

ในการร่วมงานพิธีกรรมต่างๆของหน่วยเรานั้น ไม่ใช่แค่ไปร่วมในพิธี ร่วมรับประทานอาหารเสร็จเเล้วก็กลับ เเต่หน่วยเราเป็นหน่วยที่จะต้องจัดทหารเข้าไปช่วยในพิธีตั้งแต่การเตรียมงานเช่นการตั้งเต๊นพิธี การเตรียมอาหาร หาฟืน ที่บ่อยที่สุดก็เป็นการปอกมะพร้าว ขูดมะพร้าว วี เป็นเพื่อนที่ถนัดงานนี้มากๆส่วนผมนั้นปอกมะพร้าวพอทำได้ แต่ขูดมะพร้าวไม่เป็นเลย

ตามหลักการจัดกำลังพลของทหารพรานนั้น อาสาสมัครทหารพรานจะเป็นกำลังพลในระดับปฏิบัติการ ส่วนในระดับสายงานหรือหน้าที่ในฝ่ายธุรการต่างๆจะเป็นหน้าที่ของนายทหารชั้นนายสิบขึ้นไป แต่หน่วยผมส่วนใหญ่หน้าที่ต่างๆเหล่านั้นจะถูกจัดให้อาสาสมัครทหารพรานที่มีความสามารถในความรับผิดชอบ วี ได้ถูกจัดเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลคลังอาวุธปืนซึ่งถือว่าสำคัญมากๆ และในบางครั้งคราววีอาจได้ทำหน้าที่ในการดูแลงบประมาณของหน่วย ในภาพเป็นขณะวีกำลังดูแลทำความสะอาดอาวุธปืนบางส่วนของหน่วย

วี เป็นคนที่ได้รับหน้าที่ในการรับผิดชอบดูแลอาวุธปืนตั้งแต่ช่วงการฝึก มีครั้งนึงที่วีนับปืนผิด ขาดไปหนึ่งกระบอก พอหาที่มาที่ไปจนเรียบร้อยพวกเราทั้งกองร้อยโดนซ่อม ( ทำโทษ ) โดยทั่วหน้ากัน เพราะเพื่อนวีคนเดียว

วี เป็นเพื่อนมุสลิมที่ชื่อจริงไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นมุสลิมเลย เพื่อนทหารที่เป็นมุสลิมจะได้รับความลำบากเป็นพิเศษในช่วงเดือนรอมฎอน (เดิอนบวช) เพราะเป็นช่วงที่เพื่อนทหารเหล่านี้จะกินอาหารในตอนกลางวันไม่ได้ ทั้งๆที่ต้องทำภารกิจไปตามปกติ โดยเฉพาะทหารที่ประจำการในหมู่บ้านที่เป็นมุสลิมร้อยเปอเซ็นต์ ในตอนเย็นเพื่อนทหารเหล่านี้ต้องไปละหมาดเเละรับประทานอาหารร่วมกับชาวบ้านในหมู่บ้านด้วย

วี กำลังละหมาดในมัสยิดประจำหมู่บ้าน ปัจจุบันมัสยิดแห่งนี้ถูกรื้อออกไปแล้วเเละกำลังดำเนินสร้างมัสยิดหลังใหม่ซึ่งเป็นมัสยิดที่วีโดนยิงเสียชีวิตขณะไปร่วมก่อสร้าง วี ถูกลอบยิงเสียชีวิตในขณะช่วยชาวบ้านสร้างมัสยิดในช่วงเที่ยงของวันที่ 7 พ.ย. 56

ภาพนี้เป็นภาพของครั้งแรกที่หน่วยได้แจกไอศกรีมเลี้ยงเด็กและชาวบ้านในหมู่บ้าน โดยหน่วยจะสั่งไอศกรีมจากพ่อค้าที่เร่ขายในหมู่บ้านถังนึงประมาณ 1600 บาท โดยผู้ที่ส่วนใหญ่จะทำการตักไอศกรีมแจกเด็กๆจะเป็นวีกับเพื่อนอีกหนึ่งคนเสมอ

ในภาพเป็นร้านตัดผมประจำหมู่บ้านหลังใหม่ที่หน่วยไปสร้างให้ พร้อมทั้งอุปกรณ์ในการตัดผมชุดใหม่ หลังจากนั้นพวกเราทหารในหน่วยมักจะไปตัดผมที่ร้านนี้เป็นประจำ ทั้งๆที่ในฐานมีเพื่อนที่มีความสามารถในการตัดผมอยู่เเล้ว เพราะผู้กองบอกว่าอยากให้ชาวบ้านมีรายได้

มักมีคนถามผมเสมอว่าเป็นทหารอยู่ใต้ต้องทำอะไรบ้าง แต่สำหรับหน่วยผมต้องถามว่า "มีอะไรบ้างที่เราไม่ทำ" ในกองร้อยเราอยู่กันเเบบเพื่อน ช่วงแรกๆที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ กำลังพลถึงเวลาพักกลับบ้านจะต้องเอาสัมภาระมารับการตรวจสอบว่ามีการลักลอบขนของหน่วยกลับบ้านหรือไม่ ( ถ้าพูดกันจริงๆคือกลัวขโมยปืนและกระสุนกลับนี่แหละ ) วี จึงแกล้งเพื่อนที่พักในกระท่อมเดียวกันกับมัน โดยเอาขวดน้ำปลาในโรงครัวไปแอบใส่ในเป้ของเพื่อนคนนั้น เมื่อถึงเวลาตรวจสอบกระเป๋าจึงเห็นขวดน้ำปลาซุกอยู่ในกระเป๋าเพื่อน เพื่อคนนั้นจึงถูกอำว่าโจรกระจอกคิดจะขโมยน้ำปลาของหลวงกลับบ้าน เรื่องนี้มักเป็นเรื่องที่เพื่อนโดนอำอยู่เสมอ

มีเหตุการณ์หลายครั้งที่ในการปฏิบัติภารกิจในด้านยุทธการผมกับวีได้ถูกจัดให้อยู่เป็นคู่บัดดี้กัน เช่นการลาดตระเวร ซุ่ม ตรวจสอบสิ่งที่น่าสงสัยต่างๆ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีข่าวว่าหน่วยจะโดนลอบโจมตีซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นวันไหน ในตลอดระยะเวลาช่วงนั้นซึ่งกินเวลาประมาณ 4 วัน เราเเทบไม่ได้นอนกันเลย ในช่วงกลางคืนเราต้องไปคอยซุ่มตามจุดต่างๆรอบฐาน ผมกับ วี ใช้วิธีการผูกเปลใต้กระท่อม ต่างคนต่างคอยปลุกกันเมื่อมีอีกคนทำท่าจะหลับ เเละในหลายครั้งที่เราต้องไปซุ่มบริเวณป่า หรือบริเวณสวนยางในหมู่บ้าน ในระหว่างความมืดมิดของกลางคืน ความหนาวของอากาศ เสียงยุงที่บินว่อน ตอนนั้นเราจะตระหนักได้ว่า ชีวิตเรามีแค่เรากับเพื่อนข้างๆนี่แหละ.....มีแต่คนที่ผ่านเหตุการณ์แบบเราถึงจะเข้าใจเราได้

บางครั้งการพยายามเล่าเรื่องราว ของใครซักคนหนึ่งที่เป็นเพียงคนตัวเล็กของสังคม ให้คนทั่วไปรู้จักตัวตนของคนคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ผมจะไม่ยกย่องว่า วี เป็นคนดี แต่สำหรับผม "มันเป็นเพื่อนที่ดี" ตั้งแต่ผมได้รับข่าวการจากไปของเพื่อนคนนี้ สิ่งที่ผมรู้สึกเป็นอย่างแรกคือเสียงหัวเราะของมันในตอนคุยกันครั้งล่าสุด ซึ่งผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย ผมชวนวีไปสมัครสอบเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรของกรมยุทธศึกษาทหารบก เพราะด้วยความรู้ความสามารถของมันนั้นหากสอบได้ผมเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อกองทัพ แต่ท้ายที่สุดความฝันของมันก็ดับลง....ทิ้งลูกที่ยังเล็กกับเมียที่ยังสาวไว้เบื้องหลัง

อาสาสมัครทหารพรานเป็นกองกำลังที่มีกำลังพลมากที่สุดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และจะกลายเป็นกำลังหลักในแก้ปัญหาในสามจังหวัดชายแดนจากนโยบายของกองทัพ แต่เป็นกำลังพลที่สังคมรู้จักน้อยที่สุด หากมีข่าวคราวของทหารพรานออกตามสื่อต่างหรือหน้าหนังสือพิมพ์มักเป็นข่าวที่ด้านลบเสมอ อย่างล่าสุดก็ "เต้ย จักราช" ทั้งๆที่กำลังพลทหารพรานเป็นกำลังพลที่ได้รับความสูญเสียมากมายจากการปฏิบัติภารกิจในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เเละสวัสดิการน้อยที่สุดของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ทางทหารในพื้นที่ สิทธิกำลังพลของอาสาสมัครทหารพรานในกรณีเสียชิวิตหรือพิการจาการปฏิบัติหน้าที่ได้รับน้อยกว่าทหารเกณฑ์ที่ถูกส่งลงไป ผมไม่ได้เปรียบเทียบเพื่อให้เกิดความแตกแยก หรือความน้อยเนื้อต่ำใจ ผมแค่อยากให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน ภาพลักษณ์ของคนที่สมัครเป็นอาสาสมัครทหารพรานมักถูกมองว่าเป็นพวกไม่มีที่ไป ไม่รู้จะไปทำงานอะไร ไร้การศึกษา ผมไม่ปฏิเสธมีกำลังพลบางส่วนที่เป็นเช่นนั้น แต่กำลังพลที่ตั้งใจอาสาลงไปเพื่อปฏิบัติหน้าที่ก็มีมากมายเช่นกัน.....อย่างน้อยก็เพื่อนที่ชื่อ "วีรศักดิ์ จิตหลัง"

ผมเเละเพื่อนทหาร มีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับ เพื่อน "วี" แต่ไม่รู้จะเล่าอย่างไร พวกเรารู้ดีว่าเราเป็นแค่อาสาสมัครทหารพรานไม่ได้มียศฐาบรรดาศักดิ์ใดๆ การจากไปของเพื่อนคนนึง ซึ่งวันหนึ่งมันอาจเป็นวันของเรา มันคงไม่มีเสียงดังพอ ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใดๆได้ เราอาจปกป้องคนทั้งประเทศไม่ได้ เราอาจเปลี่ยนแปลงเรื่องราวที่มันเกินอำนาจของเราไม่ได้ แต่เราจะทำหน้าที่ที่เราได้รับให้ดีที่สุดจาก.....เพื่อน 4415
-----------------------------------------------
จากคุณ Pepito mi corazon
พวกเราประชาชนมาร่วมส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหารพรานกันเถอะค่ะ ส่งเป็นจดหมาย สคส. พัสดุสนามชายแดนต่างๆได้หมดค่ะ สู้ๆนะคะ

หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 สโมสรชลประทานเขื่อนปัตตานี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี 94160
หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 บ้านวังพญา ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา 95140
หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 วัดสักขี ม.1 ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี 94110
หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี 94170
หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 บ้านป่าทุ่ง ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี 94110
หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 บ้านปิเหล็ง ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส 96130
หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 วัดบางนรา ถนนชลคามพินิจ ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส
หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 บ้านสะปาเราะ หมู่ที่ ๕ ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา 95120  โทร. 073-291406
หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส 96130
กองร้อยทหารพรานที่ 4907 กรมทหารพรานที่ 49 วัดเวฬุวัน บ้านป่าไผ่ ม.2 ต.กาหลง อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส 96210
=====================================

ด้วยจิตคารวะ monsoon

No comments:

Post a Comment