ทบ.จัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลาง

ตอนนี้มีข่าวการจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศ ดังนี้

ในการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติให้กองทัพบกดำเนินการจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลาง ภายใต้โครงการจัดหาระบบอาวุธปืนต่อสู้อากาศยานระยะปานกลาง-ไกลแบบที่ 1 จำนวน 1 ระบบ งบประมาณ 53 ล้านยูโร โดยเป็นงบประมาณผูกพันตั้งแต่ปี 2557-2560

จุดที่น่าสังเกตในครั้งนี้มีอยู่ 2 ประการ คือ

1. ระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลาง ภายใต้โครงการจัดหาระบบอาวุธปืนต่อสู้อากาศยานระยะปานกลาง-ไกลแบบที่ 1
2. งบประมาณ 53 ล้านยูโร

จุดแรกนั้น คิดว่าเป็นการนำงบประมาณจากโครงการจัดหาระบบอาวุธปืนต่อสู้อากาศยาน ก็แสดงนัยว่าการจัดซื้อในครั้งนี้ ไม่น่าจะใช่ระบบปืนต่อสู้อากาศยาน เนื่องจากใช้คำว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ซึ่งหากเป็นการจัดหาระบบอาวุธปืนแล้ว ก็คงใช้ชื่อโครงการเดิมตรงๆ
ดังนั้น ณ เวลานี้ ผู้คนที่สนใจจึงพุ่งเป้าไปที่ระบบอาวุธจรวดนำวิถี

จุดที่สอง งบประมาณครั้งนี้เป็นเงินสกุลยูโร ไม่ใช่เงินสกุลดอลล่าร์ จึงทำให้การคาดเดาในเบื้องต้นมุ่งไปที่ระบบจากยุโรป
แต่ตอนนี้รัสเซียได้มีการตกลงทำการค้ากับจีนโดยไม่ใช่เงินสกุลดอลล่าร์ จึงทำให้เกิดตัวเลือกเพิ่มขึ้นมาอีก เพราะทั้งรัสเซียและจีนต่างก็แสดงท่าทีเคารพต่อการดำเนินกิจการภายในของไทยโดยไม่ก้าวก่ายและแทรกแซง

สำหรับการจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศในครั้งนี้จัดหามาเพียง 1 ระบบเท่านั้น ตรงนี้เองที่ทำให้คาดคิดว่าน่าจะเป็นการจัดหาเพื่อนำมาศึกษาและวิจัย โดยในเงื่อนไขก็จัดหาคงจะมีต้องมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีเป็นแน่แท้
ซึ่งที่ผ่านมาก็มีตัวอย่างให้เห็นแล้วนั่นคือ ไทยเราซื้อ WS-1B จำนวน 1 ระบบเพื่อมาศึกษาพัฒนาจรวด DTi-1

เราก็มารอดูกันต่อไปว่ากองทัพบกจะจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบใด จากประเทศอะไร

ส่วนเหตุผลจูงใจในการจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศดังกล่าวส่วนหนึ่งก็น่าจะปรากฏอยู่ในคลิ๊ปวีดีโอนี้ แม้ว่าคลิ๊ปนี้จะจัดทำเพื่อสร้างกระแสโดยมีวัตถุประสงค์ให้เพิ่มงบประมาณกองทัพอากาศสหรัฐฯ
แต่มันก็มีเหตุผลที่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของระบบป้องกันภัยทางอากาศ ลองพิจารณานาทีที่ 4:10