Saturday, April 20, 2013

Mirrorless Camera


วันนี้ขอนำเสนอเรื่องกล้องไร้กระจก(สะท้อน) หรือ mirrorless camera ทั้งนี้เพราะเคยได้พูดคุยกับเพื่อนและเพื่อนของเพื่อนที่นิยมชื่นชอบการถ่ายภาพ บางคนก็บอกว่าภาพจากกล้องไร้กระจกสู้ภาพจากกล้อง DSLR ไม่ได้

ก็เกิดคำถามว่า มันจริงรึเปล่า เลยไปศึกษาค้นคว้าข้อมูลของกล้องไร้กระจกเพื่อให้รู้แน่ชัดกันไปว่าคุณภาพของรูปจะสู้กับกล้อง DSLR ได้หรือไม่
สิ่งที่จะนำเสนอต่อไปนี้จะอธิบายกันแบบง่ายๆ บ้านๆ ซึ่งคิดว่าไม่น่าซับซ้อนเป็นวิชาการมากเกินไปกว่าที่ผู้คนทั่วไปจะทำความเข้าใจได้

การที่ภาพถ่ายจะออกมาสวยงดงามแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบสำคัญหลักๆ ในกล้องถ่ายรูป 2 ประการ นั่นก็คือ
  1. ความสามารถของตัวเซนเซอร์ในการตรวจจับแสง
  2. คุณภาพของเลนซ์ที่ใช้ถ่ายภาพ
คราวนี้ลองไปดูข้างในภายในของกล้องทั้งสองแบบกันว่าแตกต่างกันอย่างไร
ซ้ายคือกล้อง DSLR ทางขวาคือ Mirrorless
กล้อง DSLR จะมีกระจกคั้นอยู่ระหว่าง เลนซ์ และ ตัวเซนเซอร์ แต่กล้อง Mirrorless ไม่มี

หน้าที่ของกระจกในกล้อง DSLRที่บังตัวเซนเซอร์อยู่ก็คือ เพื่อสะท้อนภาพที่จะถ่ายให้เราสามารถมองเห็นผ่านจากช่องส่องด้วยสายตา(Optical View Finder) แต่ถ้าหากไม่มีตัวปริซึม(Pentaprism) ภาพที่ปรากฏในช่องส่องด้วยสายตาจะเป็นภาพกลับหัว ดังนั้นกล้องแบบกระจกจะต้องประกอบด้วย กระจกและตัวปริซึมคู่กัน


เวลาเรากดถ่ายภาพกระจกสะท้อนนี้จะถูกดันให้พับขึ้นไปเพื่อให้แสงจากเลนซ์วิ่งไปถึงตัวเซนเซอร์

การที่มีกระจกสะท้อนและตัวปริซึมนี้ ทำให้กล้อง DSLR มีขนาดที่หนามากขึ้น เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับใส่กระจกทั้งสองชิ้น


อธิบายแค่นี้คงพอจะเข้าใจแล้วสิว่ากล้อง Mirrorless ตัดกระจกสองชิ้นนี้ออกไปจากสาระบบ คือปล่อยให้แสงผ่านจากเลนซ์เข้าหาตัวเซนเซอร์เลย จึงทำให้ตัวกล้องบางและเบากว่ากล้อง DSLR แต่สิ่งที่สูญเสียไปคือช่องส่องด้วยสายตา

ดังนั้นกล้อง Mirrorless ยุคแรกๆ จะต้องดูภาพจากจอที่อยู่ด้านหลังกล้องเท่านั้น แต่กล้อง Mirrorless รุ่นหลังๆ ก็ลบจุดอ่อนอันนี้ลงด้วยการจำลองภาพจากจอด้านหลัง ทำให้กล้อง Mirrorless รุ่นหลังๆ ที่ออกมามีช่องส่องด้วยสายตา (Optical View Finder)

เพราะฉะนั้นบทสรุปทางทฤษฏีก็คือภาพที่ถ่ายจากกล้อง Mirrorless จะมีคุณภาพสวยงดงามเหมือนกับกล้อง DSLR ที่ใช้เลนซ์และตัวเซนเซอร์ที่เหมือนกัน ทั้งนี้เพราะใช้หลักการทำงานเดียวกันเหมือนกัน

แถมท้ายกันหน่อย ด้วยขนาดของตัวเซนเซอร์
ท่านที่ชื่นชอบการถ่ายภาพก็ต้องเคยได้ยินคำว่าฟูลเฟรม
(Full Frame) กันมา

ฟูลเฟรม มันคืออะไร
มันก็คือขนาดของฟิล์ม 35 มม. ดังนั้นตัวเซนเซอร์ใดที่มีขนาด 35 มม.ก็จะเรียกกันว่า ฟูลเฟรม


การที่ตัวเซนเซอร์มีขนาดเท่ากับฟิล์ม นั่นคือขนาด 35 มม. จะทำให้ภาพที่ได้มีความสวยงามคมชัดกว่าตัวเซนเซอร์ที่มีขนาดเล็กกว่า



แต่ในปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยี่เข้ามาช่วยในการประมวลผลสร้างภาพ ทำให้ช่องว่างเรื่องคุณภาพตรงนี้ลดลง แต่ก็ในเฉพาะภาพที่มีขนาดเล็กๆ ทั่วไป เช่นภาพขนาดโปสการ์ด 3.5”x5.5” หรือภาพถ่ายทั่วไป 4”x6” ซึ่งหากนำไปพิมพ์เป็นภาพขนาดใหญ่ๆ ก็จะเห็นข้อแตกต่าง
ดังนั้นกล้องจะถูกหรือแพงก็ขึ้นอยู่กับขนาดของตัวเซนเซอร์ด้วย


 


No comments:

Post a Comment