Wednesday, August 7, 2013

กองทัพเรือเปิดเผยคุณลักษณะของเรือฟริเกตลำใหม่ที่กำลังจัดหา

บทความเกี่ยวเนื่องก่อนหน้านี้ย้อนไปอ่านได้ที่ http://monsoonphotonews.blogspot.com/2013/04/blog-post_22.html

ในที่สุดกองทัพเรือก็ได้เปิดเผยคุณลักษณะของเรือฟริเกตลำใหม่จำนวน 2 ลำที่กำลังจัดหากันอยู่ เป็นเรือแบบ DW3000H แต่ออกแบบใหม่โดยใช้ขนาดของเรือในชั่น KDX-I รูปร่างหน้าตาก็จะออกมาได้ประมาณภาพจำลองนี้


ส่วนที่จะนำเสนอต่อไปนั้นได้คัดลอกมาจาก สำนักจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ (http://www.navy.mi.th/namo/index.php?option=com_content&view=article&id=329:new-frigate&catid=44:front-page&Itemid=95)

 เรือฟริเกตที่จัดหาจะมีขีดความสามารถในการปฏิบัติการรบได้ 3 มิติ  คือ การปฏิบัติการสงครามใต้น้ำ  การปฏิบัติการสงครามต่อต้านภัยทางอากาศ และการปฏิบัติสงครามผิวน้ำ  โดยสามารถปฏิบัติงานร่วมกับ ฮ.ทร. ในการรับ-ส่ง ฮ. และนำ ฮ.เข้าเก็บในโรงเก็บ ฮ.ได้  นอกจากนั้น ยังได้เพิ่มขีดความสามารถของระบบตรวจการณ์ และระบบอาวุธในการปฏิบัติการสงครามใต้น้ำ  และการป้องกันภัยทางอากาศให้มีประสิทธิภาพสูง อีกทั้งระบบอาวุธและระบบอำนวยการรบ ได้รับการออกแบบให้มีขีดความสามารถในการเชื่อมต่อข้อมูลทางยุทธวิธี ที่สามารถใช้งานร่วมกับระบบการรบของเรือฟริเกต ชุด ร.ล. นเรศวร และ ร.ล.จักรีนฤเบศร ได้ เป็นผลทำให้การปฏิบัติการรบร่วมในลักษณะกองเรือ (Battle Group) รวมทั้งการปฏิบัติการรบร่วมกับอากาศยานของกองทัพอากาศ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ประกอบกับข้อเสนอการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่บริษัทฯ เสนอ จะทำให้เพิ่มขีดความสามารถให้อู่เรือไทยและบุคคลากรทั้ง ทร. และภาคเอกชนให้มีความรู้ความชำนาญ รองรับการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการใช้เทคโนโลยี การพัฒนาเทคโนโลยี รวมถึงการบำรุงรักษา ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการต่อเรือรบในประเทศได้

       กองทัพเรือได้แต่งตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาดำเนินการ โดยได้เชิญชวนอู่เรือของประเทศต่าง ๆ  ในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา จำนวน 13 ราย ซึ่งรวมถึงอู่เรือจากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ด้วย เพื่อเปิดกว้างให้มีการแข่งขันให้ ทร. ได้รับประโยชน์สูงสุด โดยมีผู้เสนอแบบเรือ 5 ราย ได้แก่ อู่เรือจากสาธารณรัฐอิตาลี ราชอาณาจักรสเปน สาธารณรัฐเกาหลี  (2 ราย) และสาธารณรัฐประชาชนจีน หลังจากนั้นได้ดำเนินการคัดเลือกแบบตามแนวทางการจัดหายุทโธปกรณ์หลักของกองทัพเรือ  โดยผลการพิจารณาปรากฏว่า แบบเรือของบริษัท Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering Co., Ltd. (DSME) สาธารณรัฐเกาหลี สามารถตอบสนองภารกิจของกองทัพเรือได้ดีที่สุด และเป็นแบบเรือที่ตรงตามความต้องการของกองทัพเรือมากที่สุด จึงได้รับการคัดเลือก

        แบบเรือฟริเกตที่ได้รับการคัดเลือก เป็นแบบที่พัฒนามาจากเรือพิฆาตชั้น Kwanggaeto Class Destroyer (KDX-I)  ซึ่งเรือฟริเกตที่กองทัพเรือจัดหา มีการออกแบบและสร้างเรือ โดยใช้มาตรฐานทางทหารของสหรัฐฯ และกองทัพเรือเกาหลี อีกทั้งได้รับการรับรองเป็นแบบที่ได้รับรองจากสถาบันจัดชั้นเรือซึ่งเป็นสมาชิกของ IACS (International Association of Classifications Society)  โดยแบบเรือดังกล่าว มีระวางขับน้ำสูงสุด  3,700 ตัน ความเร็วสูงสุดต่อเนื่อง 30 นอต  ระยะปฏิบัติการประมาณ 4,000 ไมล์ทะเล กำลังพล 136 นาย ลักษณะของเรือออกแบบโดยใช้ Stealth Technology และลดการแพร่คลื่นแม่เหล็กตัวเรือ รวมทั้งลดการแพร่เสียงใต้น้ำ ติดตั้งระบบอำนวยการรบและระบบอาวุธจากยุโรปและอเมริกา ซึ่งสามารถปฏิบัติการรบได้ทั้ง 3 มิติ รวมทั้งป้องกันตัวเองในระยะประชิด ตามมาตรฐานยุโรป สหรัฐฯ และกองทัพเรือที่มีใช้งานและกำลังจัดหา

        การสร้างเรือ จะดำเนินการ ณ อู่ต่อเรือของบริษัท DSME สาธารณรัฐเกาหลี ในระหว่างปี 2556 – 2561 โดยมีค่าจ้างสร้างเรือรวมทั้งสิ้นประมาณ 14,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม อะไหล่เครื่องมือ เอกสาร  ส่วนสนับสนุน การทดสอบทดลอง การฝึกอบรม การถ่ายทอดเทคโนโลยี และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ภารกิจ    ภารกิจในยามสงคราม กิจหลัก ป้องกันอธิปไตยเหนืออาณาเขตทางทะเลของไทย กิจรอง คุ้มกันกระบวนเรือลำเลียง    ภารกิจในยามสงบ        รักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของเส้นทางคมนาคมทางทะเล พิทักษ์รักษาสิทธิอธิปไตยทางทะเล ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ และรักษากฎหมายตามกฎหมายให้อำนาจทหารเรือ
ขีดความสามารถ     ขีดความสามารถทั่วไป  โดยสามารถนำเรือ/เดินเรือแบบรวมการที่ทันสมัย ระบบขับเคลื่อนที่ควบคุมง่าย รวดเร็ว ทนทาน ง่าย และประหยัด ความทนทะเลได้ถึงสภาวะทะเลระดับ ๖ ขึ้นไป โครงสร้างเรือแข็งแรง มีโอกาสอยู่รอดสูงในสภาพแวดล้อมของการสู้รบและการปนเปื้อนทางนิวเคลียร์/เคมี/ชีวะ     ขีดความสามารถด้านการควบคุมบังคับบัญชาและการตรวจการณ์ ด้วยระบบอำนวยการรบและระบบตรวจการณ์ที่ทันสมัยและขีดความสามารถสูง รวมทั้งสามารถเชื่อมโยงข้อมูลและสื่อสารกับเรือ อากาศยาน และหน่วยบนฝั่ง ตลอดจนสามารถตรวจการณ์ครอบคลุมทุกมิติทั้งกลางวันและกลางคืน     ขีดความสามารถการรบ โดยสามารถปฏิบัติการรบได้ ๓ มิติ โดยให้ความสำคัญในการปฏิบัติการสงครามใต้น้ำเป็นลำดับแรก โดยสามารถตรวจจับเป้าหมายระยะไกลด้วยโซนาร์ลากท้ายและโซนาร์ติดใต้ท้องเรือ แล้วต่อตีเรือดำน้ำได้ที่ระยะไกลด้วย Vertical Launch Anti-Submarine Rocket หรือตอร์ปิโด และลำดับที่สอง การปฏิบัติการสงครามต่อต้านภัยทางอากาศ โดยใช้เรดาร์ตรวจการณ์ 3 มิติระยะไกล และระยะปานกลางในการค้นหา ตรวจจับ และติดตามเป้าข้าศึก รวมทั้งแลกเปลี่ยนและประสานการปฏิบัติกับเรือและอากาศยานที่ร่วมปฏิบัติการ แล้วโจมตีเป้าหมายด้วยอาวุธปล่อยนำวิถีฯ แบบ ESSM และอาวุธปืนของเรือ  ส่วนการป้องกันทางอากาศระยะไกล หรือพื้นที่ชั้นนอกของกองเรือ (Battle Group) จะใช้การปฏิบัติการร่วมกับอากาศยานของกองทัพอากาศในการค้นหา ตรวจจับและโจมตี และการปฏิบัติการสงครามผิวน้ำ โดยสามารถโจมตีเป้าหมายได้ที่ระยะไกล โดยปฏิบัติร่วมกับเรือและอากาศยานในการพิสูจน์ทราบเป้า ส่งมอบเป้าและให้ใช้อาวุธจากระยะพ้นขอบฟ้า รวมทั้งโจมตีเป้าพื้นน้ำและใต้น้ำด้วยเฮลิคอปเตอร์ประจำเรือ      ขีดความสามารถในการป้องกันตนเอง ด้วยอาวุธปล่อยนำวิถีฯ  ปืนใหญ่เรือและปืนรองต่อสู้อากาศยาน  ระบบอาวุธป้องกันระยะประชิด (CIWS)  ระบบลวงทางอิเล็กทรอนิกส์  ระบบควบคุมความเสียหายแบบรวมการที่สั่งการได้จากศูนย์กลางหรือแยกสั่งการ มีระบบควบคุมการแพร่สัญญาณออกจากตัวเรือ     ขีดความสามารถในการทำสงครามอิเล็กทรอนิกส์ โดยสามารถตรวจจับ ดักรับ วิเคราะห์ และก่อกวนสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าของเป้าหมายได้  
      ขีดความสามารถในการปฏิบัติการรบร่วม โดยผ่านระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี ให้สามารถปฏิบัติการรบร่วมในลักษณะกองเรือ (Battle Group) ได้แก่ ร.ล.จักรีนฤเบศร  เรือฟริเกต ชุด ร.ล.นเรศวร  เรือคอร์เวต ชุด ร.ล.รัตนโกสินทร์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมทั้งการปฏิบัติการรบร่วมกับ บ.กองทัพอากาศ ตามบทบาทหน้าที่ที่จะได้รับมอบหมาย ซึ่งเรือฟริเกตสมรรถนะสูง จะทำหน้าที่ควบคุมการปราบเรือดำน้ำเป็นหลัก
คุณลักษณะและขีดความสามารถทั่วไป
ระวางขับน้ำสูงสุด
3,700 ton
มิติ
123 x 14.4 x 8 (m)  
ความคงทนทะเล
Sea State 8 (Survivability)
ความเร็วสูงสุด
 30 Knots
ระยะปฏิบัติการ
4,000 NM @ 18 Knots
ระบบขับเคลื่อน
2 x Diesels + 1 x GE, Controllable Pitch Propeller
ระบบไฟฟ้า
4 x Ship Service Power Generation (Each of 830 kW Rated output)
เรือเล็ก
1 x RHIB
ระบบเรือ
                         Stealth Technology   
- RCS (Radar Cross Section) Reduction
- IR (Infra Red Reduction)                                                  
- URN (Underwater Radiated Noise) Reduction 
- Degaussing
- NBC Protection System
เฮลิคอปเตอร์  
1 x 10 Ton Helo (S-70B Sea hawk or MH-60S Knight hawk)   with Hangar   
กำลังพล
136
ระบบอำนวยการรบ  
15 x MFC (Multi Function Consoles)
ระบบอาวุธ
8 x SSM
VLS with capabilities of
     + 8 x Canisters (max 32 ESSM)
     + Vertical Launch Anti-submarine Rocket (VLA)
     + Nulka Active-off board ECM
     + SM2**
1 x 76/62 Stealth Shield, Multi feeding system
    (max range 40- 45 km with smart ammunition)
2 x 30 mm Guns (200 RPM) x CIWS (4,500 RPM)
2 x .50 inch (Range; 2 km)
2 x Trainable Triple tube torpedo launchers
ระบบควบคุมการยิง 
2 x Radar Fire Control System
2 x Continuous Wave Illuminators
1 x Electro Optical Fire Control
2 x Target Designation Sight
ระบบตรวจการณ์ 
1 x 3 D Long Range Radar (> 350 Km)
1 x 3 D Medium Range Radar (> 180 Km)
3 x Navigation Radar
1 x Surveillance Camera (TV and thermal imager)
1 x Hull Mounted Sonar
1 x Towed Array Sonar
2 x IFF
1 x Automatic Dependent Surveillance-Broadcast (ADS-B)
ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์
1 x Radar ESM
1 x Communication ESM
6 x Decoy Launchers
Active-off board ECM 
ระบบสื่อสาร
1 x Integrated Communication System
      Link RTN, Link G & Link E
1 x TACAN
1 x SAT Communication
                                                                                                                   
 ----------------------------------------
** เรือฟริเกต ได้รับการออกแบบตัวเรือและโครงสร้างรองรับการปรับปรุงให้สามารถยิงอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศ แบบ SM2 รวมทั้งได้มีแผนเตรียมการรองรับไว้แล้ว โดยบริษัทผู้ผลิตระบบประกอบที่เกี่ยวข้องได้แก่ แท่นยิงอาวุธปล่อยฯ แนวตั้ง ระบบอำนวยการรบ เรดาร์ควบคุมการยิงและ เรดาร์ชี้เป้า (Illuminator) สามารถปรับปรุงรองรับการยิงอาวุธปล่อยฯ ดังกล่าวได้ เมื่อกองทัพเรือต้องการและสถานการณ์ด้านงบประมาณเอื้ออำนวย

สรุป
          เรือฟริเกตที่จัดหาในครั้งนี้ เป็นเรือฟริเกตที่มีสมรรถนะสูงที่สุดในกองทัพเรือ มีความพร้อมมูลในการปฏิบัติการในทะเลทุกมิติ  โดยมีคุณลักษณะและขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจและหน้าที่ที่ได้รับมอบได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สอดคล้องกับความต้องการของกองทัพเรือ และบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการได้ 

อัพเดท 6 กันยายน 2556

โมเดลเรื่อฟริเกตลำใหม่ของไทย






1 comment:

  1. ลงนามในสัญญาจ้างค่อเรือกันเรียบร้อยแล้ว

    "พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ร่วมลงนามในสัญญาจ้างสร้างเรือฟริเกต ตามโครงการจัดหาเรือฟริเกต ณ ห้องรับรอง กองบัญชาการกองทัพเรือ เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๖"

    ReplyDelete