วันนี้จะมานำเสนอโครงการจัดหาเรือฟริเกตของกองทัพเรือ
ที่ผมเคยกล่าวถึงในสรุปข่าวทหารปี
2012
เมื่อวันที่
8
มี.ค.2013
(สามารถย้อนไปอ่านกันได้ที่
http://monsoonphotonews.blogspot.com/2013/03/2012.html)
ก่อนอื่นก็คงต้องเสนอรายละเอียดของโครงการนี้กันก่อน
โครงการจัดหาเรือฟริเกต
๑.
ความเป็นมา
จัดหาเรือฟริเกต จำนวน ๒ ลำ ที่มีคุณลักษณะเดียวกัน โดยสามารถปฏิบัติการรบได้ ๓ มิติ คือ ต่อต้านภัยจากเรือดำน้ำ ต่อต้านภัยผิวน้ำ และต่อต้านภัยทางอากาศ จึงต้องมีขีดความสามารถ ๕ ด้าน ได้แก่ ปราบเรือดำน้ำ รบผิวน้ำและโจมตีฝั่ง ป้องกันภัยทางอากาศ สงครามอิเล็กทรอนิกส์ และสงครามศูนย์เครือข่าย โดยจะต้องมีขีดความสามารถโดยรวมไม่ต่ำกว่าเรือฟริเกตของ ทร. ในปัจจุบัน ความเร็วไม่ต่ำกว่า ๒๕ นอต และมีระวางขับน้ำระหว่าง ๒,๐๐๐ - ๔,๐๐๐ ตัน โดยมีภารกิจในยามสงคราม กิจหลัก ป้องกันอธิปไตยเหนืออาณาเขตทางทะเลของไทย กิจรอง คุ้มกันกระบวนเรือลำเลียง ภารกิจในยามสงบ รักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของเส้นทางคมนาคมทางทะเล พิทักษ์รักษาสิทธิอธิปไตยทางทะเล ค้นหา
จัดหาเรือฟริเกต จำนวน ๒ ลำ ที่มีคุณลักษณะเดียวกัน โดยสามารถปฏิบัติการรบได้ ๓ มิติ คือ ต่อต้านภัยจากเรือดำน้ำ ต่อต้านภัยผิวน้ำ และต่อต้านภัยทางอากาศ จึงต้องมีขีดความสามารถ ๕ ด้าน ได้แก่ ปราบเรือดำน้ำ รบผิวน้ำและโจมตีฝั่ง ป้องกันภัยทางอากาศ สงครามอิเล็กทรอนิกส์ และสงครามศูนย์เครือข่าย โดยจะต้องมีขีดความสามารถโดยรวมไม่ต่ำกว่าเรือฟริเกตของ ทร. ในปัจจุบัน ความเร็วไม่ต่ำกว่า ๒๕ นอต และมีระวางขับน้ำระหว่าง ๒,๐๐๐ - ๔,๐๐๐ ตัน โดยมีภารกิจในยามสงคราม กิจหลัก ป้องกันอธิปไตยเหนืออาณาเขตทางทะเลของไทย กิจรอง คุ้มกันกระบวนเรือลำเลียง ภารกิจในยามสงบ รักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของเส้นทางคมนาคมทางทะเล พิทักษ์รักษาสิทธิอธิปไตยทางทะเล ค้นหา
และช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล
ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ
และรักษากฎหมายตามกฎหมายให้อำนาจทหารเรือ
๒. การดำเนินการที่ผ่านมา
๒.๑ เมื่อ ๑๗ พ.ค.๕๕ ทร.เห็นชอบให้จัดหาเรือฟริเกต จำนวน ๒ ลำ วงเงิน ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท และส่วนสนับสนุนเพิ่มเติมในเรื่องอมภัณฑ์ อะไหล่ ฯลฯ รวมวงเงิน ๓๓,๐๐๐ ล้านบาท โดยให้เริ่มโครงการในปีงบประมาณ ๒๕๕๕ ประกอบด้วยโครงการจัดหาเรือฟริเกต ระยะที่ ๑ วงเงินรวม ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท ตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ และโครงการจัดหาเรือฟริเกต ระยะที่ ๒ วงเงินรวม ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท ตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๕๗ - ๒๕๖๑ และเห็นชอบคุณลักษณะทั่วไป แบบ และข้อมูลเรือฟริเกต เพื่อใช้เป็นแนวทางจัดทำโครงการจัดหาเรือฟริเกต
๒.๒ เมื่อ ๑๘ พ.ค.๕๕ ทร.แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือฟริเกต (กฟก.) โดยมี รอง เสธ.ทร. (พล.ร.ท.จักรชัย ภู่เจริญยศ) เป็นประธานกรรมการ
๒.๓ เมื่อ ๒๓ พ.ค.๕๕ กฟก.แต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะตามความต้องการของฝ่ายเสนาธิการ โดยมี จก.ยก.ทร. เป็นประธานกรรมการ
๓.
การดำเนินการ
ณ
ปัจจุบัน
จัดทำร่างความต้องการของ ทร.
จัดทำร่างความต้องการของ ทร.
๔.
การดำเนินการต่อไป
เชิญชวนบริษัทมาให้ข้อมูลแบบเรือ
เชิญชวนบริษัทมาให้ข้อมูลแบบเรือ
สำหรับโครงการนี้เบื้องต้นมีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลทั้งหมด
11
ราย
แต่มีผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวน
2
รายด้วยกันคือ จากประเทศเกาหลีทั้งคู่
โดยมีอีก 3 บริษัทที่ตกไปก่อนรอบสุดท้ายคือบริษัทจากประเทศ
โดยมีอีก 3 บริษัทที่ตกไปก่อนรอบสุดท้ายคือบริษัทจากประเทศ
- สเปน
- อิตาลี
- จีน
นสพ.บางกอกโพสต์
ได้รายข่าวนี้ในวันที่ 21
เม.ย.2013
(http://bangkokpost.com/news/local/346242/s-korea-to-build-thai-navy-frigate)
ว่าบ.
Daewoo
Shipbuilding and Marine Engineering (DSME)
เป็นผู้ที่ได้รับเลือกในโครงการนี้
สำหรับบ.แดวู
(DSME)
นั้นเป็นบริษัทต่อเรือที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
และเป็นบริษัทต่อเรือรายใหญ่
1
ใน
3
รายของเกาหลีใต้
โดยเมื่อปี 2011
บริษัทได้รับสัญญาสร้างเรือดำน้ำำจำนวน3
ลำให้กับประเทศอินโดนีเซีย
ซึ่งเป็นการส่งออกเรือดำน้ำครั้งแรกของประเทศเกาหลีใต้ โดยขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่
คาดกันว่าแบบเรือที่เสนอคือ
DW
3000H แต่ทั้งนี้ต้องรอดูในรายละเอียดที่กองทัพเรือจะแถลงต่อไป
ตรงนี้ขอเพิ่มเติมรายละเอียดว่าแบบเรือ
DW
3000H นี้เป็นเรือที่ยังไม่มีการสร้างขึ้นมาเลย
และยังไม่เคยประจำการในกองทัพใดมาก่อน
เพราะเรือที่เกาหลีใต้สร้างเองและได้ประจำการเป็นเรือ
HDF3000
ของ Hyundai Heavy Industries Co., Ltd. (HHI) เข้าประจำการในกองทัพเรือเกาหลีใต้ในชื่อว่า FFX1
เราลองมาดูคุณลักษณะของเรือ
DW
3000H กันก่อนว่าเป็นอย่างไร
- ตัวเรือยาว 114 เมตร
- กว้าง 13.8 เมตร
- กราบเรือสูง 8.2 เมตร
- กินน้ำลึก 3.9 เมตร
- ระวางขับน้ำ 3,000 ตัน
- เครื่องยนต์ ดีเซล
- ความเร็วสูงสุด 28 น็อต
เรือ
DW
3000H เป็นเรือฟริเกตแบบทวิบทโดยเน้นสงครามต่อต้านเรือดำน้ำ
เรด้าห์และอาวุธประำจำเรือประกอบไปด้วย
- ระบบเรดาร์ I-Mast 500 จาก Thales
- ระบบ Electro-Optic แบบ MIRADOR
- ปืนเรือขนาด 76 มิลลเมตรของ Oto Melara ในป้อมปืนที่ลดการสะท้อนของเรด้าห์
- จรวดต่อสู้อากาศยานแบบ ESSM (Evolved Sea Sparrow Missile) ซึ่งติดตั้งอยู่ในระบบท่อยิงทางดิ่ง Mk.41 จำนวน 8 ท่อยิง
- จรวดแบบพื้นสู่พื้น RGM-84L HARPOON Block II หรือ SSM-700K Hae Sung I แบบ 4ท่อยิงจำนวน 2 ชุด
- อาวุธปืนขนาด 30mm MSI DS30MR จำนวน 2 ชุด
- อาวุธปืนระยะประชิดขนาด 20mm CIWS Phalanx จำนวน 1 ชุด
- จุดติดตั้งเป้าลวง จำนวน 1 จุด
- แท่นยิง Torpedo ปราบเรือดำน้ำ แบบ 3ท่อยิง จำนวน 2 แท่น
- จุดติดตั้งระบบโซนาแบบถอดออกได้ จำนวน 1 จุด
- ลานเฮลิคอปเตอร์ จอดได้ 1 ลำ
ท้ายสุดของวันนี้ คืออยากให้สังเกตว่าบ.แดวู
กำลังสร้างเรือดำน้ำให้กับประเทศอินโดนีเซีย
ดังนั้นในอนาคตหากกองทัพเรือพิจารณาหาเรือดำน้ำเพื่อใช้ในราชการ
บ.แดวู
ก็น่าจะได้เปรียบคู่แข่งขันอื่นอยู่บ้าง
***************************
KDX-I (DW4000) |
อัพเดท 3 ก.ค.2556 ตอนนี้มีข่าวลือออกมาว่าแบบเรือฟริเกตลำใหม่ของไทย ไม่ใช่ DW3000H แต่จะเป็น KDX-I(DW4000)
KDX มาจากคำว่า Korean Destroyer eXperimental project ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ระยะคือ
- เฟสแรก - KDX-I ระวางขับน้ำ 3,800 ตัน (ปี 1998)
- เฟส 2 - KDX-II ระวางขับน้ำ 5,000 ตัน (ปี 2002)
- เฟส 3 - KDX-III ระวางขับน้ำ 7,000 ตันขึ้นไป (ปี 2007/2008)
เรือ KDX-I ที่กองทัพเรือเกาหลีใต้บรรจุเข้าประจำการนั้นมีขนาดตามโครงการคือ 3,800 ตัน เรียกว่าชั้น Okpo class เป็นเรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ (DDH - Destroyer Helicopter) บางทีก็เรียก KDX-I หรือ King Kwanggaeto class
ตามแผนเิดิมเกาหลีใต้จะสร้างเรือรุ่นนี้จำนวน 17-20 ลำแต่ภายหลังุเปลี่ยนไปให้ความสนใจในเรือรุ่นต่อมาคือ KDX-II (5000ตัน) แทน ทำให้เรือ KDX-I ถูกสร้างออกมาเพียงแค่ 3 ลำคือ
- ROKS Kwanggaeto the Great (DDH-971)
- ROKS Ulchimundok (DDH-972)
- ROKS Yangmanchun (DDH-973)
ซึ่งหากราชนาวีไทยเลือกแบบ KDX-I แล้วก็คิดว่าภาพเรือ DW4000 ที่โพสนี้คงจะเป็นแบบเรือ KDX-I ที่กองทัพเรือไทยเลือก ทั้งนี้เพราะขนาดระวางขับน้ำของเรือชั้น KDX-I นั้นแค่ 3,800 ตัน แต่ภาพที่โพสเป็นขนาด 4,000 ตัน
ก็เลยนำภาพทั้งสองระหว่าง DW4000 กับ เืรือของกองทัพเรือเกาหลีใต้ในชั้น KDX-I มาเปรียบเทียบให้ดู จะเห็นรายละเอียดที่แตกต่างกัน
ที่เห็นแตกต่างกันชัดคือ ที่เสากระโดงเรือ และห้องสะพานเดินเรือ (ไม่นับรวมอาวุธจรวดหลังปล่องควัน)
This comment has been removed by the author.
ReplyDeleteความสำคัญตอนนี้น่าจะเป็นเรือดำน้ำมากกว่า จะใครสร้างก็แล้วแต่
ReplyDelete