Wednesday, September 11, 2013

รถถัง T-84 Oplot ภาค 3

บทความนี้นับว่าเป็นตอนที่สามแล้ว ที่เขียนเกี่ยวกับเจ้า T-84 Oplot สุดลึกลับ ก็ขอย้อนภาคก่อนๆ เสียหน่อยสำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านกัน เพราะเดี๋ยวจะไม่เข้าใจเรื่องทั้งหมด

ภาคแรก http://monsoonphotonews.blogspot.com/2013/06/blog-post_29.html

รถถังที่ลึกลับที่สุดในโลก เผยโฉม


ประวัติรถถัง T-84 Oplot-M (478DU10)


สำหรับภาคนี้รูปภาพจะเยอะ...ยาวหน่อยน่ะ ส่วนจะเป็นเรื่องอะไร ก็ลองติดตามอ่านกันดู

เมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมาได้มีชาวยูเครนได้โพสภาพของรถถัง T-84 Oplot ที่ไทยสั่งซื้อจากยูเครน ซึ่งมีการออกข่าวว่าจะส่งงวดแรกให้ได้จำนวน 5 คันในเดือนพ.ค.กลางปี แต่จนแล้วจนรอดก็ยังมาไม่ถึงไทยเสียที
เป็นภาพของรถถัง T-84 Oplot ที่กำลังประกอบอยู่ในโรงงานที่ยูเครน ประเด็นแรกก็คือปกติสีที่ทาบนตัวรถถังชั้นแรกจะเป็นสีรองพื้นเพื่อกันสนิท นั่นก็คือ Primer ซึ่งอาจจะทา 1 - 2 รอบก็แล้วแต่ และเมื่อประกอบรถถังเสร็จเรียบร้อยแล้วถึงจะนำไปพ่นหรือทาสีจริงตามที่ลูกค้าสั่ง แต่จากภาพจะเห็นว่ารถถังที่กำลังประกอบนั้นทาสีเรียบร้อยแล้ว

ทาสีเสร็จแล้ว แต่ยังเก็บงานไม่เรียบร้อย เมื่อเก็บงานเสร็จก็ต้องนำรถไปขัดล้างให้สะอาด แล้วสีที่ทาล่ะ แค่ตอนเก็บงานตรงแผ่นยางบังเกราะด้านหน้าป้อมปืน สีก็ถลอกแล้ว
จะรีบทาสีจริงไปเพื่ออะไร สั่งเกตที่ตัวปืนใหญ่ยังติดตั้งไม่แล้วเสร็จเลย

มีคนบอกว่าการจะนำรถถังเก่า T-80UD มาดัดแปลงเป็น T-84 Oplot ไม่คุ้มและยุ่งยาก สร้างใหม่ง่ายกว่า โดยยกเหตุผลว่าต้องรื้อของเก่า แล้วทำใหม่ เดินสายไฟใหม่ อะไรต่อมิอะไร

สำหรับภาพต่อไปนี้เป็นแค่ภาพตัวอย่างที่นำมาอ้างสนับสนุนว่าการดัดแปลงรถถังสามารถทำได้ ไม่ได้ยุ่งยากเหมือนที่มีคนนั่งเทียนพูด และภาพทั้งหมดที่นำมาอ้างอิงก็เป็นภาพที่ถ่ายจากโรงงาน Kharkov
ตัวอย่างเช่นถ้าช่วงหน้าช่องพลขับไม่ใช่แบบเดียวกันก็ผ่าตัวถังตัดช่วงหัวออกเลย แล้วกับแค่ผ่าป้อมปืนมันจะยากตรงไหน
ด้านหลังรถถังก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน มันก็เหมือนกับคนทำศัลยกรรมนั่แหละ ไม่ต้องสร้างตัวถังใหม่ มันจะแพงกว่า ไม่คุ้มเท่าสร้างใหม่ได้อย่างไร
รื้อแล้วประกอบใหม่ ก็เหมือนๆ กันที่กองซ่อมสร้างฯ ทบ. ซ๋อมสร้างรถถังสกอร์เปี้ยน มันจะแพงเท่าซื้อรถถังสกอร์เปี้ยนคันใหม่รึ
ล้อกดสายพาน ต้องการแบบไหนก็ถอดใส่ได้หมด
คราวนี้ลองมาดูของคูของจริงกันบ้าง
ภาพนี้เป็นภาพส่วนท้ายของปืนในป้อมรถถัง T-84 ที่รอประกอบเข้ากับตัวรถ

ส่วนภาพนี้แค่เอามาให้ดูว่าคุณแน่ใจได้อ่ย่างไรว่าปืนในภาพข้างบนนั้นจะไม่ได้นำมาจากกองปืนในภาพข้างล่างนี้

ท้ายรถถัง T-84 Oplot
จะแน่ใจได้ไหมว่าเป็นของใหม่ ไม่ได้ศัลยกรรมมา

นี้หรือสภาพตัวรถของสร้างใหม่

ที่ยกตัวอย่างมาให้เห็นก็เพราะต้องไม่ลืมกันว่า Kharkov เป็นโรงงานซ่อมสร้างรถถังมาก่อน เพราะฉะนั้นขีดความสามารถและประสบการณ์ในการดัดแปลงรถถังมีอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีรถถังเก่าอยู่ในสต็อคมากมายทั้ง T-64 T-72 T-80 T-80UD
แล้วรถถัง T-64 ก็คือต้นตระกูลของรถถัง T-84 และ T-84 ก็ดัดแปลงมาจากรถถัง T-80UD
นอกจากรถถังก็ยังมีอะไหล่อื่นๆ อีกเพียบ รวมทั้งเครื่องยนต์



และต้องไม่ลืมว่าโรงงานมีปัญหาเรื่องการเงิน จนด้องขอความคุ้มครองจากศาลเพื่อให้ดำเนินกิจการต่อไปได้ นอกจากนี้ BTR3 งวดที่สองที่ส่งให้อิรัคนั้น อิรัคก็ยอมรับเนื่องจากตัวรถเก่าเป็นสนิทและสมรรถนะด้านเทคนิคไม่ได้ตามมาตรฐาน

ด้วยเหตุผลข้างต้น จึงเป็นมูลเหตุทำให้ผมคิดว่ารถถัง T-84 Oplot ของไทย เป็นรถถังที่ดัดแปลงหรืออัพเกรดมาจากรถถังที่มีอยู่แล้วในสต็อค ซึ่งภาษาบ้านๆ เรียกกันให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือเอารถถังเก่ามาอัพเกรด ดัดแปลง ผมถึงจุดประเด็น "ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวปิดไม่มิด"
ทั้งนี้ ยิ่งได้ดูงานของ T-84 Oplot แล้วนำไปเทียบกับ BTR3E1 แล้ว งานดูหยาบกว่ากันเยอะ
BTR3E1
ขนาดตอนสร้างประกอบกันในโรงงาน ชิ้นส่วนยังเก่าขนาดฝุ่นเกาะ

พวกชอบเถียงข้างๆ คูๆ ว่าโรงงานก็ย่อมมีฝุ่น ก็ขอบอกว่า 1.ถ้าฝุ่นขนาดนี้ก็แสดงว่ามาตรฐานของโรงงานต่ำมาก 2.บนตัวรถถังเอง ฝุ่นมันเลือกจับเกาะเป็นส่วนๆ ได้ด้วยรึ
จากภาพนี้ยิงเห็นว่าน่าจะเป็นการดัดแปลงอัพเกรด
เรื่องราวทั้งหมดนี้ถ้าหากทางโรงงานเปิดเผยข้อมูลและภาพขั้นตอนการสร้าง T-84 Oplot ของไทย รวมทั้งกองทัพบกทำการประชาสัมพันธ์อย่างชัดเจนทั่วถึง ประเด็นข้อสงสัยทั้งหลายก็คงไม่เกิดขึ้น แต่กลับกันภาพที่ออกมานั้นทั้งหมดเป็นภาพที่ได้จากสื่อมวลชนและของชาวยูเครนทั่วๆไป ยิ่งทำให้รถถัง T-84 Oplot(M?)เป็นเรื่องที่ลึกลับน่ากังขา

บทความนี้ขอสงวนสิทธิ์ในการนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตก่อน

13 comments:

  1. ถ้าเป็นจริงตามท่านว่าผมว่า ทบ.ก็เตรียมโดนรุมสกรัมได้เลย ก้ได้แต่หวังว่าจะไม่ใช่อย่างที่ท่านว่า =w=

    ReplyDelete
  2. ผมว่าคันที่มีฝุ่นจับเยอะๆ มันคือคันที่เขาเอาออกไปทดสอบมากกว่านะ สังเกตุจากรอยโคลนที่ติดกับล้อ เหอะๆ

    ReplyDelete
  3. ทำไมไม่มองรถถังคันที่กำลังประกอบอยู่ในภาพแรก หรือภาพก่อนภาพสุดท้ายล่ะ
    ประกอบยังไม่เสร็จคงไม่ได้เอาไปวิ่งทดสอบกับเขาด้วยหรอก

    สำหรับคันที่เอาไปทดสอบ กลับมาต้องรื้อปรับปรุงขนาดใหญ่กันเลยนะ รถถังใหม่
    ปืนใหญ่ยังต้องปรับกันใหม่เลย หุ...หุ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ทำไมถึงลากไปรถถังคันที่นำไปทดสอบ ภาพที่ประกอบข้อวิจารณ์ล้อก็ใหม่ สายพานก็สะอาดนะ
      555 ฟันธงอีกแล้ว

      Delete
  4. ส่วนคนที่ชอบอมขี้ฟันคนอื่่นเอามาพูด เอามาเรียบเรียงใหม่ ยังจะอวดฉลาดมาพูดเรื่องความน่าเชื่อถือ
    ช่างน่าสมเพชจริงๆ
    สมัยก่อนก็อมขี้ฟันคนอื่นไปเขียนเรื่องเกมส์ ถูกผู้หญิงสวนกลับ ไม่เคยหลาบจำนะ

    ReplyDelete
  5. ทบ.ในฐานะ 1. ผู้นำเงินงบประมาณแผ่นดินที่ได้มาจากภาษี อากร ไปซื้ออาวุธ 2. ในฐานะผู้ซื้ออาวุธ ต้องเรียกร้องให้ผู้ขายเผยแพร่ข้อมูลการผลิตที่แท้จริงให้ ทบ. ทราบ และ ทบ.มีหน้าที่ชี้แจงให้ประชาชนชาวไทยทราบเท่าที่จะเปิดเผยได้ เพื่อความกระจ่าง อย่าอึมครึม

    ReplyDelete
  6. คุณไปเห็นมาหรอไง...ถึงได้กล้าว่าเป็นรถถังที่ย้อมแมว
    ที่สำคัญทหารที่ไปตรวจดูรถถัง และโรงงานก็เป็นนายทหารระดับปฏิบัติการ เค้าคงไม่ยอมเอาอาวุธไม่มีประสิทธิภาพมาใช้หรอกเพราะถ้าเอามาใช้ก็เท่ากับฆ่าตัวตายฟรีๆ...เหมือนกับเราซื้อรถไว้ใช้ถ้ารถมีปัญหา อยู่ดีๆขับไปบังคับพวงมาลัยไม่ได้ถ้าคุณรู้ตั้งแต่แรกว่ารถไม่มีประสิทธิภาพคุณยังจะกล้าซื้อมาหรือเปล่า...
    ถ้าเป็นนักการเมืองไปดูว่าไปอย่าง

    ReplyDelete
  7. รู้ดีจังเลยครับ ไม่ทราบว่าได้ร่วมไปกับคณะผู้ตรวจสอบด้วยหรือเปล่า อืม...ถ้าไม่ได้ไปแล้วรู้ถึงลักษณะการเกาะของฝุ่นเลยหรอ ลืมไรไปป่าวนี่มันโรงงานผลิตรถถังน่ะคุณ ตัด เชื่อม อ๊อคเหล็กมันต้องมีดิครับ ไม่ใช้โรงงานผลิตยาที่จะต้องปลอดฝุ่น ผมจะถือว่าได้อ่านpreviewรถถังล่ะกันน่ะ

    ReplyDelete
  8. ทำไมไม่นำมาผลิตเองเลยละครับ

    ReplyDelete
  9. แน่จริงเอาไปลงTAFหรือTFCดูสิครับ

    ReplyDelete
  10. ผม ถาม แบบ โง่ โง่ นะ ครับ ใคร ตรวจ รับ GT200 กับ บอลลูน ยักษ์
    ผม ไม่ ได้ ไป เห็น มา
    คุณ ไป เห็น มา ช่วย บอก ด้วย นะ
    คำ ว่า "เค้า คง"
    มัน เป็น สม มุติ ฐาน พอ พอ กับ เรื่อง ใน บท ความ
    แต่ ว่า เรื่อง ที่ เคย เกิด มา แล้ว ใช่ ว่า จะ ไม่ เกิด ซ้ำ

    ReplyDelete
  11. คนเข้ามาตอบเเต่ละคน กูเห็นเเล้วก็เอือมตรรกะจริงๆ

    ReplyDelete
  12. มึงอัคติมากกว่าล่ะผมว่า

    ReplyDelete