Tuesday, January 10, 2017

T-50 TH

TFC จุดพลุเรื่องเครื่องบินฝึกแบบใหม่ที่จะมาทดแทน L39 ZA/ART ว่าให้จับตาดูงวดที่สอง ความหมายคืออะไรหรืออาจจะไม่มีอะไรก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามวันนี้จะหยิบเรื่องนี้มาคุย
ภาพจาก Facebook
ประเด็นที่จะมาคุยกันในวันนี้ ะเป็นสมมุติฐานที่ว่า หากไทยเราจะเปลี่ยนแบบเครื่องบิน คือไม่สั่งซื้อเครื่องบิน T-50TH อีก หลังจากส่งมอบงวดแรกสี่ลำครบแล้ว สาเหตุเกิดจากอะไร และ เครื่องบินที่จะตัวเลือกใหม่มีลำใดบ้าง

เริ่มกันที่สาเหตุใดถึงทำให้กองทัพอากาศไทยจะไม่สั่งซื้อเพิ่มเติมเครื่องบิน T-50TH เท่าที่คาดเดาน่าจะมีมูลเหตุมาจากการที่เครื่องบิน T-50I ของอินโดนีเซียตกที่เมืองยอคยาการ์ต้า เกาะชวา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2558 ระหว่างแสดงการบินสาธิตในงานฉลองครบรอบ 70 ปีของโรงเรียนการบินกองทัพอากาศอินโดนีเซีย

นับเป็นอุบัติเหตุครั้งที่สอง โดยครั้งแรกเกิดในประเทศเกาหลีใต้เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2555 สำหรับอุบัติเหตุที่อินโดนีเซียนี้ ผ่านมาหนึ่งปีแล้วแต่ยังไม่เห็นมีรายงานผลการสอบสวนสาเหตุการตกของเครื่องบินออกมา
20 ธันวาคม 2558
ในเว็ปของไทยก็มีการพูดคุยกันว่าน่าจะเกิดจากความผิดพลาดของนักบิน หากเป็นเช่นนั้นก็ไม่น่าจะมีอะไรต้องเป็นห่วง แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น..นี่แหละถึงจะเป็นเรื่องใหญ่เพราะหากอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากความบกพร่องของเครื่องบิน T-50 ก็จะมีผลกระทบต่อบริษัท KIA อย่างใหญ๋หลวง

เพราะเรื่องนี้สามารถเป็นเหตุให้เครื่องบิน T-50A ที่ร่วมมือกันระหว่างบ.KIA และบ. Lockheed Martin ถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขันโครงการเครื่องบินฝึกแบบใหม่ของสหรัฐฯ T-X

และนี่ก็อาจจะเป็นสาเหตุให้ผลการสอบสวนฯ ยังไม่เสร็จสิ้น และเปิดเผยออกมาสู่สาธารณะ

เมื่อรู้ถึงสาเหตุกันแล้ว คราวนี้มาว่ากันถึงตัวเลือกอื่น (หากกองทัพอากาศไทยไม่เลือกชื่อ T-50TH อีก) จะมีเครื่องบินใดเหลืออยู่บ้างอีก

ก็คงต้องย้อนกลับไปดูตัวเลือกในครั้งเมื่อเริ่มต้นการแข่งขัน (ย้อนกลับไปอ่านกันได้ที่ http://monsoonphotonews.blogspot.com/2014/12/1-l-39zaart.html) เพราะตัวเลือกเหล่านั้นก็ย่อมกลับมามีโอกาสอีกครั้ง คือ
  • Hongdu L-15 Falcon
  • M-346 Master และ
  • Yak-130 Mitten
แต่ในปัจจุบันได้มีตัวเลือกให้พิจารณาเพิ่มขึ้นอีกจากเครื่องบินที่เข้าแข่งขันในโครงการ T-X ของสหรัฐฯ (ย้อนกลับไปอ่านบทความได้ที่ http://monsoonphotonews.blogspot.com/2014/08/blog-post.html) ซึ่งมีบริษัทที่แสดงเจตจำนงค์เข้าร่วมแข่งขันแล้ว นั่นคือ
  • Boeing/Saab - T-X
  • Northrop Grumman / BAE Systems
  • Raytheon/Alenia Aermacchi - T-100
  • Sierra Nevada/TAI Freedom
และอีกหนึ่งบริษัทที่ยังไม่ตัดสินใจคือ Textron AirLand Scorpion

ในส่วนของโครงการ T-X สหรัฐฯ นั้น มีเครื่องบินอยู่สองลำที่น่าจับตามองคือ
  1. T-X ของบ.Boeing/Saab
    สำหรับเหตุผลที่เครื่องบินลำนี้น่าจับตามอง อยากให้ไปย้อนอ่านบทความเก่ากัน http://monsoonphotonews.blogspot.com/2016/09/gripen-e.html

  2. Scorpion ของบ.Textron AirLand
    ที่น่าจับตาก็เพราะการที่เครื่องบินลำนี้สร้างจากอุปกรณ์และอะไหล่ของเครื่องบินพาณิชย์ Cessna ที่ผลิตใช้อยู่ในปัจจุบันมาสร้างขึ้น ทำให้ราคาของมันน่าจะต่ำกว่าเครื่องบินอื่น คือราวๆ ลำละ $20 ล้านดอลล่าร์ และค่าใช้จ่ายในการบินตกชั่วโมงละ $3,000  แต่มันก็มีจุดอ่อน คือลำตัวสร้างจากวัสดุคอมโพสิต


ก่อนจะปิดประเด็นในวันนี้ ก็อยากจะขอย้ำเตือนกันอีกนิดว่าสมมุติฐานวันนี้คือ "สาเหตุจากเครื่องบิน T-50I ของอินโดนีเซียตกนั่นมาจากข้อบกพร่องของเครื่องบิน" ทำให้ถูกตัดสิทธิ์จากโครงการ T-X และทำให้กองทัพอากาศไทยไม่สั่งซื้อเครื่องบิน T-50TH ล็อทที่สอง ด้วยเหตุนี้รายชื่อบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ T-X ในบทความนี้จึงไม่มีชื่อของบ.Lockheed Martin/KAI อยู่ด้วย

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน(จนจบ)

No comments:

Post a Comment