กล้อง DSLR like ซูมทะลุโลก

เทคโนโลยี่ในปัจจุบันได้ก้าวล้ำนำสมัยไปมากเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างพวกเราๆ ท่านๆ จะคาดคิดถึง ในอดีตเทคโนโลยี่ระดับไมโครคอมพิวเตอร์นั้นก็สุดยอดแล้ว ชิพตัวเล็กขนาดหัวแม่มือแต่บรรจุตัวเซนเซอร์ได้เป็นร้อยๆ พันๆ ตัว สำหรับในปัจจุบันเทคโนโลยี่ระดับนาโนคอมพิวเตอร์ยิ่งสุดยอดเล็กกระจี๋วหริวมากขึ้นไปอีก

ในตลาดกล้องถ่ายรูปก็เป็นเช่นเดียวกัน ก็คงต้องปูพื้นความรู้กันคร่าวๆ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจตรงกันก่อน

ตัวผมเองได้แบ่งกล้องอย่างง่ายๆ ออกเป็น 3 รุ่นคือ

1. กล้องรุ่นเล็ก คือ พวก compact สะดวกพกพา ประเภท Point n Shoot หรือที่พวกเราๆ ท่านๆ นิยมเรียกกันว่า กล้องปัญญาอ่อน นั้นแหละครับ

2. กล้องรุ่นกลาง คือ DSLR – like เป็นกล้องที่มีลูกเล่นมากขึ้น มีฟังก์ชั่นสามารถปรับแต่งการถ่ายได้ มากกว่ากล้องขนาดเล็ก การทำงานคล้ายๆกล้อง DSLR ด้วยเหตุนี้ผมจึงเรียกกล้องประเภทนี้ว่าพวกลูกครึ่ง คือไม่ใช่ compact และก็ไม่ใช่ DSLR

3. กล้องรุ่นใหญ่ คือ DSLR (Digital Single-Lens Refiex) สำหรับพวกมืออาชีพ มือโปร

ส่วนตัวของผมแล้วนิยมกล้องลูกครึ่ง DSLR – like ประเภทเลนซ์ตัวเดียวครอบจักรวาล กล่าวคือสามารถใช้ถ่ายได้ทั้งระยะใกล้มุมกว้าง และระยะไกลดึงเข้าหาตัวประมาณความยาวสนามฟุตบอล ทั้งนี้เนื่องจากฝีมือยังไม่แกร่งกล้าพอที่จะขยับไปเล่น DSLR จริงๆ มิเช่นนั้นมันจะเป็นเสมือน “ลิงได้ลูกแก้ว” เลยต้องฝึกฝนการถ่ายไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงเวลาสุกงอม

ดังนั้นช่วงนี้ผมจึงสนใจมองแต่กล้องรุ่นกลาง และในยุคสมัยเทคโนโลยี่ระดับนาโนนี้ ผมเห็นว่ากล้องรุ่นกลางที่น่าสนใจอยู่หลายตัวในตอนนี้ แถมแต่ละตัวซูมดึงภาพกันสุดๆ ขนาด 2-3 สนามฟุตบอล (จริงๆ นะ..ไม่ได้โม้) เลยมาแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบข้อมูลเปรียบเทียบกัน เผื่อท่านใดกำลังตัดสินใจเลือกหาซื้อกล้องรุ่นกลางกันอยู่

     

กล้องตัวแรกเลยขอแนะนำจากค่าย Fujifilm รุ่น FinePix HS10 จุดเด่นคือ

• 10.3 Megapixel 
• ซูมขนาด 30 เท่า (24-720 mm.)
• จอภาพความละเอียดสูงขนาด 3” Tilting LCD, 230k pixels
• ถ่ายภาพต่อเนื่อง high speed ได้ถึง 10 fsp (frame per second)
• ถ่ายวีดีโอระบบ Full HD (1080p) พร้อมระบบเสียง stereo
• ถ่ายวีดีโอด้วยระบบ Super High Speed movie ที่ 1,000 fps
• มีโหมด Motion Panorama
• ใช้พลังงานจาก AA Battery 4  ก้อน

กล้องตัวที่สองจากค่าย Canon (คนในวงการบ้านเราให้ชื่อเล่นว่า “หนอน”) รุ่น Powershot SX20 IS จุดเด่นคือ 

• 12.1 Megapixel
• ซูมขนาด 20 เท่า (28-560 mm.)
• จอภาพ 2.5” Rotating LCD, 230k pixels
• ถ่ายวีดีโอระบบ HD (720p)
• ใช้พลังงานจาก AA Battery 4 ก้อน

กล้องตัวที่สามจากค่าย Nikon (คนในวงการบ้านเราให้ชื่อเล่นว่า “นิค”) รุ่น Coolpix P90 จุดเด่นคือ

• 12.1 Megapixel  
• ซูมขนาด 24 เท่า (26-624 mm.)
  
• จอภาพขนาด 3” Tilting LCD, 230k pixels
  
• ถ่ายภาพต่อเนื่อง high speed ได้ถึง 15 fsp
  
• ใช้พลังงานจาก Li-Ion Rechargeable battery ขนาด 1100mAh

 

กล้องตัวที่สี่จากค่าย Olympus รุ่น SP-800UZ จุดเด่นคือ 

• 14 Megapixel
  
• ซูมขนาด 30 เท่า (28-840 mm.)
  
• จอภาพ 3” LCD wide screen, 230k pixels
  
• ถ่ายวีดีโอระบบ HD (720p)
  
• ใช้พลังงานจาก Li-Ion Rechargeable battery ขนาด 925mAh

กล้องตัวที่ห้าจากค่าย Pentax รุ่น X70 จุดเด่นคือ

• 12.0 Megapixel
• ซูมขนาด 24 เท่า (26-624 mm.)
• จอภาพขนาด 2.7” LCD, 230k pixels
• ถ่ายวีดีโอระบบ HD (720p)
• Scene mode มีให้เลือกถึง 20 scenes
• ใช้พลังงานจาก Li-Ion Rechargeable battery ขนาด 925mAh 

กล้องที่นำมาแนะนำทั้ง 5 ตัวนี้คุณสมบัติใกล้เคียงกัน แตกต่างกันบ้างในรายละเอียดแต่ก็สมน้ำสมเนื้อ มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป แล้วแต่รสนิยมของแต่ละท่าน แต่สิ่งที่กล้องทั้ง 5 ตัวมีเหมือนกันคือ กำลังขยายซูมได้ทะลุโลกจริงๆ เมื่อปีที่แล้วผมซื้อกล้องก็คิดว่าซูม 14.3 เท่า นี้ก็สุดๆ แล้วนะ แต่นี้ซูมกันขนาด 20 - 30 เท่าเห็นแล้วกิเลสจะครอบงำเอา เทคโนโลยี่สมัยนี้ก้าวล้ำไปไกลจริงๆ

วันนี้ก็คงพอกันแค่นี้ก่อน ไว้โอกาสหน้ามีเรื่องอะไรดีๆ ก็จะมานำเสนอกันอีก สุดท้ายนี้ก็ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน happy happy ร่ำรวย ร่ำรวย .......สวัสดีครับ

หมายเหตุ อย่าลืม วันที่ 28-29 สิงหาคม การแสดงบินผลาดแผลงของ Thunderbirds ณ ชายหาด Coney Island