กองทัพบกสหรัฐและนาวิกโยธินสหรัฐได้สั่งซื้อจรวดขีปนาวุธขนาดเล็กแบบใหม่คือ Switchblade เมื่อปีที่แล้ว
Switchblade พัฒนาเสร็จสำเร็จเมื่อปี 2009 มันถูกพัฒนามาเพื่อกองทัพบกสหรัฐ แต่นาวิกโยธินสหรัฐได้เห็นผลจากการที่กองทัพบกและ SOCOM – Special Operations Command (หน่วยปฏิบัติการพิเศษ) ประสบความสำเร็จใช้ในปฏิบัติงาน จึงทำการสั่งซื้อไปใช้ด้วย
Switchblade พัฒนาเสร็จสำเร็จเมื่อปี 2009 มันถูกพัฒนามาเพื่อกองทัพบกสหรัฐ แต่นาวิกโยธินสหรัฐได้เห็นผลจากการที่กองทัพบกและ SOCOM – Special Operations Command (หน่วยปฏิบัติการพิเศษ) ประสบความสำเร็จใช้ในปฏิบัติงาน จึงทำการสั่งซื้อไปใช้ด้วย
Switchblade มีน้ำหนัก 1 กิโลกร้ม ใช้ครั้งเดียว ตัวยาน UAV สามารถติดตั้งวัตถุระเบิดได้ Switchblade ใช้ชุดอุปกรณ์ในการทำงานแบบเดียวกับที่ใช้ควบคุม UAV Raven ซึ่งเป็นระบบที่ใหญ่กว่า หนัก 2 กิโลกรัม
Switchblade สามารถปล่อยจากท่อยิงจรวด 70 มม.ที่ติดตั้งบนเฮลิคอปเตอร์ บินระยะทาง 1 กิโลเมตรภายใน 1 นาที บินได้นาน 20-40 นาทีขึ้นกับสภาพอากาศและการติดตั้งหรือไม่ติดตั้งวัตถุระเบิด
รุ่นติดตั้งวัตถุระเบิดสามารถบินเข้าหาเป้าหมายและระเบิด โดยมีอำนาจการระเบิดเท่ากับการระเบิดของลูกระเบิดมือแบบขว้าง
เทคนิคที่ใช้ในการนำวิถึของ Switchblade ทำให้ผู้พัฒนาเรียกมันว่าเป็นยาน UAV แต่ด้วยคุณสมบัติที่สามารถติดตั้งหัวรบ(วัตถุระเบิด) และบินด้วยความเร็วต่ำ ทำให้ Switchblade เป็นเสมือนจรวดขีปนาวุธขนาดเล็ก
Switchblade เป็นระบบอาวุธที่นิยมอย่างมากของทหารสหรัฐที่ปฏิบิติงานอยู่ในประเทศอัฟกานิสถาน และกับหน่วย SOCOM ในทุกสถานที่
จากการประสบความสำเร็จอย่างสูงของ Switchblade ทำให้กองทัพบกสหรัฐมีความต้องการให้บริษัทผู้ผลิตทำการพัฒนารุ่นใหม่คือ Switchblade 2.0 ( LMAMS – Lethal Miniature Aerial Munition System) ที่จะหนักมากขึ้นเพื่อให้บินได้นานขึ้นราว 30 นาที และระยะปฏิบัติการเป็น 9 กิโลเมตร ตัวเซนเซอร์จะมีระบบปฏิบัติการในเวลากลางคืน และมีความเสถียรภาพ มันจะต้องมีขีดความสามารถในการล็อคและติดตามเป้าหมาย โดยบริษัทผู้ผลิต(บ.เดียวกับที่ผลิต UAV Raven) ได้เริ่มดำเนินการปรับปรุงพัฒนาแล้วแต่ไม่พัฒนาระบบล็อคเป้าหมายเนื่องจากมันไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ไปจากเทคนิคควบคุมพื้นฐานของระบบเดิม แต่เคล็ดลับอยู่ตรงที่จะรวมทั้งหมดให้อยู่ในการทำงานและแพคเกจเดียว
Switchblade ทั้งระบบ (ตัวจรวด, กล่องบรรจุ และชุดควบคุม) มีน้ำหนัก 5.5 กิโลกรัม แต่ LMAMS ทั้งระบบจะมีน้ำหนักราว 8 กิโลกรัม
No comments:
Post a Comment