เฟซบุ้คเพจ

เพิ่มเติมอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับช่องสื่อสารผ่านเฟสบุค https://www.facebook.com/monsoonphotonewspage/ ด้วยข่าวสั้นจากสำนักข่าวต่างๆ ทั่วโลก รวดเร็วทันเหตุการณ์

Tuesday, July 2, 2013

Olympus has fallen

ว่าจะโพสเรื่องรถถัง T-84 Oplot-M(478DU10) แต่เรื่องราวสลับซับซ้อนมาก กำลังเรียบเรียงอยุ่ มึนๆ หัวเลยพัก มานอนดูหนังเรื่อง Olympus has fallen เนื่องจากมีพวกที่ So proud in American บางผู้ให้เรทติ้งเนื้อเรื่องแค่ 3 จาก 10

จะว่ากันไปแล้ว หนังเรื่องนี้สะท้อนย้อนหลังไปถึงอดีตของตึกเวิลด์เทรดเซนเตอร์ที่คนอเมริกันไม่คาดคิดว่าจะถูกทำลายลงได้เพราะกฎหมายที่เข้มงวดและรัดกุมของเขา แต่คนอเมริกันไม่รู้ซึ้งถึงปรัชญาการรบตามตำราพิชัยสงครามของซุนวู ดังคำว่าเราอยู่ในที่แจ้ง ศัตรูอยู่ในที่ลับประกอบทรนงกับตัวบทกฏหมายหรือกฎระเบียบข้อบังคับ โดยละลืมไปว่ามันก็เป็นแค่เครื่องมือควบคุมความสงบ ไม่ใช่มีไว้สำหรับรับมือกับการก่อการร้าย

ผมจะขอวิพากษ์หนังเรื่องนี้ในแง่ของคนที่ชื่นชอบชมภาพยนต์ซึ่งมีเลือดทหารแค่ครึ่งเดียวอยู่ในตัวตน

ขอแจ้งไว้ก่อนว่าคนที่ไม่ใช่คอภาพยนตร์ประเภทสงคราม สืบสวน สอบสวน หรือ Syfi ก็อย่าได้อ่านต่อไป เพราะมันจะพูดคุยกันคนละเรื่อง เนื่องจากอารมณ์ความรู้สึกความเข้าใจมันคนละ field กัน

แม้ว่าต้นเรื่องจะผูกปมด้วยอุบัติเหตุที่ stupid มากๆ แต่ก็ชี้ให้เห็นถึงความเป็นอุบัติเหตุ คือสามารถเกิดขึ้นโดยไม่ต้องมีเหตุผลใดๆ เกิดขึ้นได้ทุกแห่ง เกิดขึ้นได้กับทุกคน ถ้าไม่คิดอะไรมาก ก็จะไม่มีปัญหาใด
แถมหนังเรื่องนี้ก็ลงทุนไม่มากมายเท่าที่ควรนัก เพราะดูได้จากฉากต่างๆ หากนับกันแล้วไม่ใช่หนังฮอลิวู้ดระดับ 5ดาว คงได้แค่เพียง 4.0-4.5 ดาวแค่นั้น เพราะ CG ก็ยังไม่เนียนสักเท่าไรนัก การตกแต่งฉากต่างๆ ก็พอกลมกลืนถูไถไปได้หากไม่ใช่คอหนังสงครามพันธุ์แท้
graphic ดูแข็งๆ ไปนิด
ฉากที่สะใจต่อไปก็คือ ฉากในร้าน coffee shop ที่อดีตลูกทีมแนะนำเจ้าหน้าที่ใหม่ต่อพระเอก ที่ชอบคือผู้กำกับใส่ตัวแสดงได้เหมาะสม ประเภทว่า put the light man to the right job ขอพูดเพียงแค่นี้

สำหรับฉากในเข้าเนื้อหาก็คงจะทำใจได้แม้ว่าจะไปอลังการอย่างที่ควรจะเป็น แต่ถ้าหากไม่จับผิดก็พอจะผ่านไปได้ไม่เก้อขวยอะไร
ห้องรับรองในไวท์เฮ้าส์คงไม่เล็กคับแคบขนาดนี้หรอก
แต่ถ้าไม่จับผิดอะไร มันก็ผ่านไปได้
ซึ่งหากจะทำหนังทุนสร้างแบบนี้ควรสร้างแบบหนังเรื่อง Air forec One ที่ Harrison Ford เป็นพระเอก ปี 1997 อาจจะโด่งดังกว่านี้

ฉากที่ประทับใจอีกฉากหนึ่งคือ ฉากที่ secretary of state เธอไม่ยอมบอก code ลับ ดูแล้วประทับใจจริงๆ แข็งแกร่งกว่าผู้ชายเสียอีก แต่หนังคงจบแค่นั้น ถ้าขืนปล่อยให้เธอเป็นดาวเด่นไป

Secretary of State ถูกบังคับใ้หบอกรหัสลับ
แต่พอดูแล้วเลือดขึ้นตามประสาชาติชายทหาร แม้ว่าจะเป็นหนังแบบดุเดือดเลือดพล่านตามแบบฮอลิวู้ดก็ตาม
คนอเมริกันคงคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ แต่มันก็ไม่แน่ อาจจะซ้ำกรณี September 11 ด้วยเหตุนี้ถึงเป็นกรณีตัวอย่างที่น่าสนใจ

แต่บทสรุปจริงๆ อยู่ตรง แฟนของพระเอก นี่แหละคือผู้หญิงที่ผู้ชายทั่วๆ ไปต้องการ กล่าวคือเข้าใจและรู้ใจแม้ไม่ต้องพูดสื่อสารอะไร (รู้ว่าพระเอกวิ่งเข้ามาอันตราย อยู่ในภาวะอันตราย แต่ก็ไม่พูดอะไรให้เป็นที่กังวลใจ)

ผู้ชายที่หลงอ่านมาก็คงไม่มีอะไรจะแถลงต่อ นอกจากให้ไปติดตามดูหนังเอาเอง แต่ผู้หญิงที่หลวมตัวอ่านมาแล้ว ก็ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะหากคุณจะยึดครองหัวใจผู้ชายที่แกร่งจริง(ไม่นับรวมพวกเกย์) ก็ให้ดูหนังแค่ช่วงท้ายๆ ราว 1:28 Hours นี่แหละคือผู้หญิงที่ชาย(แท้ๆ)ทั่วโลกใฝ่หา


No comments:

Post a Comment