สืบเนื่องมาจากนสพ.รายวัน
Folha
de Sao Paulo ของบราซิล
รายงานเมื่อวันที่
15
ธันวาคม
2013
ที่ผ่านมาว่า
เครื่องบิน Rafale
ของฝรั่งเศสจะแพัการประมูลโครงการ
F-X2
ซึ่งเป็นโครงการจัดหาเครื่องบินรบใหม่จำนวน
36
ลำเพื่อทดแทนเครื่องบินรบเก่าแบบ
F-5E/F
และ
Mirage
2000 ที่ซื้อต่อมาจากฝรั่งเศสเมื่อปี
2005
F-5EM ของบราซิล |
อันนี้คงต้องย้อนกลับไปเล่าความเป็นมาของโครงการนี้กันหน่อย
เพราะมันเป็นโครงการที่ล่าช้าเนิ่นนานมากและมีเกมส์การเมืองเข้ามาพัวพันเกี่ยวข้อง
อีกทั้งโครงการนี้เป็นที่สนใจของ
Hard
Core
วงการอาวุธยุทโธปกรณ์ของไทยเป็นอย่างมากเนื่องจากลุ้นที่จะให้เครื่องบิน
Jas-39
Gripen ของสวีเดนที่กองทัพอากาศไทยสั่งซื้อเข้ามาประจำการ
ได้เป็นผู้ชนะรับการดัคเลือก
Jas-39 Gripen กองทัพอากาศไทย |
แรกเริ่มเดิมทีเลยนั้นมันคือโครงการ
F-X
ในปี
2001
แต่ถูกระงับในปี
2003
และถูกยกเลิกในเดือนกุมภาพันธ์
2004
เนื่องจากขาดแคลนงบประมาณและปัญหาด้านการเมือง
ต่อมาในเดือนมกราคม
2008
โครงการนี้ได้ถูกนำขึ้นมาพิจารณากันใหม่อีกครั้ง
และเมื่อเริ่มต้นโครงการมีผู้เสนอตัวเข้าแข่งขันทั้งหมด
6รายคือ
- บ.Dassault ของฝรั่งเศส เสนอเครื่องบิน Rafale
- บ.EADS ของอังกฤษ เสนอเครื่องบิน Eurofighter
- บ.Lockheed Martin ของสหรัฐฯ เสนอเครื่องบิน F-16 Block 60
- บ.Saab ของสวีเดน เสนอเครื่องบิน JAS-39 Gripen NG
- บ.Sukhoi ของรัสเซีย เสนอเครื่องบิน SU-35
แต่ละบริษัทก็นำเสนอจุดเด่นของตนเองดังนี้
- Rafale ว่าเครื่องของตนคล่องตัวกว่า F/A-18 และมีกำลังมากกว่า Gripen
- F/A-18 ก็กล่าวว่า Rafale แพงกว่า และยังขายใครไม่ได้นอกจากฝรั่งเศสเท่านั้นเอง แต่ F/A-18 ขายให้กับกองทัพอากาศของออสเตรเลีย
- Gripen ก็ว่าเครื่องของตนราคาถูกที่สุด และสามารถขึ้นลงจากถนนได้
หลังจากบราซิลได้ทำการทดสอบประเมินผลแล้ว
มีผู้ได้รับการคัดเลือก 3
รายโดยกองทัพอากาศของบราซิลจะนำผลสรุปการประเมินผลของเครื่องบินทั้ง
3
แบบ
(Rafale,
F/A-18 Super Hornet และ
Jas-39
Gripen) เสนอต่อรัฐบาลภายในเดือนสิงหาคม
2009
แต่ก็ไม่สามารถทำได้ทันตามที่ประกาศไว้
ตรงนี้คิดว่าน่าจะถูกแรงกดดันจากทางด้านการเมือง
และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม
ต่อมาในเดืนอมกราคม 2010
กองทัพอากาศของบราซิลได้ทำรายงานสรุปการทดสอบประเมินผลดังนี้
“โดยรวมแล้ว
Gripen
NG มาเป็นอันดับหนึ่ง
อันดับสองเป็นของ F/A-18
และอันดับท้ายสุดเป็น
Rafale”
Gripen NG |
อย่างไรก็ตาม
ทอ.บราซิลแจ้งว่าแม้รายงานจะเสร็จสิ้นแล้วก็ตาม
แต่ก็ยังไม่ได้นำเสนอต่อรมต.กลาโหมนาย
Nelson
Jobim และนายเนลสันก็เคยบอกกับเพื่อนของเขาว่า
เขาอาจจะไม่ตัดสินก่อนหมดวาระของตำแหน่งในเดือนเมษายน
2010
ประธานาธิบดี Luiz Inacio Lula da Silva ของบราซิล(ในขณะนั้น)เลือกเครื่องบิน Rafale โดยกล่าวไว้ว่าการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของเขาในการเลือกเครื่องบินสำหรับบราซิล เขามองเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องเทคนิค
แหล่งข่าวในคณะรัฐมนตรีก็กล่าวว่าตอนนี้ก็แค่เจรจาต่อรองราคา Rafale ให้ลดลงมา เพราะราคาของ Rafale แพงที่สุดในบรรดาผู้แข่งขัน 3 รายสุดท้าย ถ้าลดราคาให้ก็เซ็นสัญญากันเลย
สรุปในรอบนี้
- ประธานาธิบดีเลือกเครื่องบิน Rafale ของฝรั่งเศส
- กองทัพอากาศเลือกเครื่องบิน Gripen ของสวีเดน
- ราคาของเครื่องบิน Rafale แพงที่สุดในบรรดา 3 ผู้แข่งขัน ดังนั้นบราซิลกำลังหาทางให้ Rafale ลดราคาลงมาเพื่อปิดดีลนี้
ในการต่อรองเครื่องบิน
Rafale
บราซิลต่อรองลงมาได้
2
พันล้านคือจาก
8.2พันล้าน
เหลือ 6.2
พันล้าน
แต่ยังไงก็ตาม
ยังแพงที่สุดอยู่ดี เพราะ
Gripen
NG แค่
4.5
พันล้าน
และ F-18
แค่
5.7
พันล้าน
Rafael |
ประธานาธิบดี
Luiz
Inacio Lula da Silva
กล่าวว่าเขาจะประกาศผลการตัดสินใจเลือกเครื่องบินแบบใด
ในวันที่
7
กันยายน
2010
ระหว่างการเฉลิมฉลองวันชาติของบราซิล
ซึ่งในงานนี้ประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศส
นาย
Nicolas
Sarkozy ก็ได้รับเชิญให้ไปร่วมงานด้วย
แต่จนแล้วจนรอด ประธานาธิบดี
Lula
ก็เลื่อนการตัดสินใจออกไปอีก
เป็นภายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ในเดือนมกราคม
2011
โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้นาย
Lula
ไม่สามารถลงสมัครได้อีกเนื่องจากอยู่ในตำแหน่งมาครบ
2
เทอมแล้วคือตั้งแต่ปี
2003-2006
และปี
2007-2010
แต่นาย
Lula
ได้สนับสนุนและผลักดันนาง
Dilma
Rousseff เด็กในสังกัดจนได้เป็นประธานาธิบดีสืบทอดจากตนต่อไป
ซึ่งการที่นาย Lula
ยังดึงการตัดสินใจประกาศผู้ชนะในโครงการ
F-X2
ก็คงเพื่อจะให้ฝรั่งเศสช่วยสนับสนุนนาง
Rousseff
ให้ได้ขึ้นเประธานาธิบดี
เมื่อนาง
Rousseff
ได้ขึ้นตำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของบราซิลเป็นคนที่
36
ในเดือนมกราคม
2011
การประกาศผู้ชนะโครงการ
F-X2
ก็ยังเลื่อนออกไปอยู่เรื่อยๆ
จวบจนปัจจุบัน
นอกจากนสพ.
Folha de Sao Paulo จะรายงานว่าเครื่องบิน
Rafael
ที่เป็นเต็งหนึ่งของโครงการนี้จะไม่ชนะแล้ว
ก็ยังคาดการณ์ว่าการตัดสินใจขั้นสุดท้ายคงไม่เกิดขึ้นก่อนปี
2015
สิ่งบ่งชี้ก็คือรัฐบาลของนาง
Rousseff
กำลังถูกผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงวิจารณ์ประมาณการค่าใช้จ่ายจำนวน
1.1
หมื่นล้านเรียล(US$4.7พันล้าน)
สำหรับจัดงานการแข่งขันชิงถ้วยฟุตบอลโลกปี
2014
ที่บราซิลได้เป็นเจ้าภาพ
Mirage 2000 ของบราซิล |
มีสิ่งที่น่าสังเกตคืออายุของเครื่องบินมือสอง
Mirage
2000 ที่บราซิลซื้อต่อมาจากฝรั่งเศสในปี
2005
นั้น
(ฝรั่งเศสทะยอยส่งให้
3
งวดคือในปี
2006
2007 และ
2008)
น่าจะใช้ได้ถึง
16-18
ปี
คือควรเสื่อมสภาพในราวปี
2025
แต่มีข่าวว่ากองทัพอากาศบราซิลจะปลดประจำการเครื่องบิน
Mirage
2000 ภายในสิ้นปีนี้
(2013)
นั่นก็คือใช้งานได้เพียง
6
ปีเท่านั้นเอง ราคา Mirage 2000 จำนวน 12 ลำคือ $60 ล้าน ซึ่งในตอนนั้น(ปี 2005)ทุกคนก็บอกว่าซื้อได้ราคาถูก ตกลำละ $5 ล้าน และกาลเวลาก็ได้เป็นเครื่องพิสูจน์คุณภาพของการจัดซื้อครั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม
เราก็มาคอยลุ้นกันต่อไปว่าในท้ายที่สุดแล้วเครื่องบินแบบใดจะได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ชนะในโครงการ
F-X2
ของบราซิล
No comments:
Post a Comment