วันนี้กลับมานำเสนอข่าวเกี่ยวกับเทคโนโลยี่การสื่อสารกัน
เพราะกระแสของซัมซุง Galaxy
Note 8 กำลังแรง
อันนี้คงต้องทำความเข้าใจพื้นฐานกันก่อนว่า
“เจ้าโน็ต8
นี้ไม่ใช่แท็บเล็ต
แต่มันเป็นโทรศัพท์มือถือที่มีหน้าจอขนาด
8
นิ้ว”
แต่ที่จะนำเสนอนั้นกลับไม่ใช่เจ้าโน็ต8
แต่จะเป็นคู่แข่งที่ซัมซุงต้องออกโน็ต
8 มาเพื่อสยบเขา
เขาที่ว่านั้นก็คือ ASUS
Padfone 2 ซึ่งเปิดตัวกันไปในตลาดนอกอเมริกากันตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
อันที่จริงผมก็เล็งๆ
ซัมซุงกาแล็คซี่โน็ต 2
อยู่ต่อมาเมื่อซัมซุงออกโน็ต
8 มา
ก็เริ่มเปลี่ยนเป้าหมาย
ทั้งนี้ก็เพราะความต้องการส่วนตัวที่ต้องการโทรศัพท์มือถือที่สามารถทำงานเป็นแท็บเล็ตได้ในตัว
โดยไม่ต้องซื้อแท็บเล็ตเพิ่มอีก
โดยแรกเริ่มเดิมที่ก็ได้วางแผนการซื้ออุปกรณ์ไว้ดังนี้คือ ไอโฟน5 คู่กับ เน็กซัส 7 หรือไม่ก็เป็น ซัมซุงกาแล็คซี่โน็ต 2 คู่กับมินิไอแพด แต่หลังจากการเปิดตัวทั้งไอโฟน5 และมินิไอแพด รู้สึกผิดหวังในสเปคของมันมากๆ ก็เลยชะลอดูความก้าวหน้าของเทคโนฯ ในอนาคตพอซัมซุงเปิดตัวโน็ต 8 ทำให้หันกลับมามองอีกครั้ง เพราะคิดว่านี่แหละใช่เลย เป็นมือถือที่ฝันไว้ แต่ก็เห็นจุดอ่อนของโน็ต 8 อยู่แล้วนั่นคือขนาดจอที่ใหญ่ควรที่จะยกขื้นแนบหูแบบโทรศัพท์มือถือทั่วไป ซึ่งก็คิดทางแก้ไขไว้คือจะใช้ Bluetooth Headset มาเป็นตัวช่วยเป็นอุปกรณ์เสริม
พอได้เห็นเอซัสแพดโฟน 2 ทำให้ทำใจออกห่างโน็ต 8 อีกครั้ง เพราะมันตอบโจทย์ความต้องการส่วนตัวได้มากกว่า อันที่จริงได้เคยโพสข่าว Asus Padfone ตัวแรกไว้ในเฟสบุ้คนานแล้วหลายปี ต่อมาก็ลืมข่าวของมันไปเพราะบริษัทเอซัสไม่ส่งเข้ามาจำหน่ายในอเมริกา ทำให้ไม่ได้ติดตามการพัฒนาของแพดโฟนอีก
คราวนี้ลองมารายละเอียดของ
Asus Padfone 2 กันดีกว่า
ว่าทำไมมันถืงตอบโจทย์ความต้องการส่วนตัวได้มากที่สุดจนทำให้เป็นที่น่าสนใจ
บริษัทเอซัส
ได้แถลงข่าวของแพดโฟน 2
เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วว่าจะวางตลาดเอเซียและยุโรปในเดือนธันวาคม
แต่ไม่มีประเทศอเมริกาอยู่ด้วย
ประเทศในยุโรป
มี บัลเกเลีย,
เอสโตเนีย,
ฟินแลนด์,
เยอรมัน,
ฮังการี,
อิตาลี,
โปแลนด์,
โปรตุเกส,
โรมาเนีย,
สเปน
และสวีเดน ประเทศในเอเซีย
มี ฮ่องกง,
อินเดีย,
ญี่ปุ่น,
มาเลเซีย,
สิงคโปร์,
ไต้หวัน,
ประเทศไทย
และสาธารณรัฐเอมิเรต์
สำหรับประเทศอื่นๆ ก็จะประกาศต่อไป
เอซัสแพดโฟน
นั่นเป็นการผสมผสานระหว่าง
สมาร์ทโฟน กับ แท็บเล็ต
คือสามารถเปลี่ยนร่างเป็น
Tablet ได้ด้วยอุปกรณ์เสริมอย่าง
Tablet Docking ทำให้คุณสามารถซื้อทีเดียว
แต่ได้ทั้ง Tablet และ
Smartphone ไปพร้อมๆ
กัน
เริ่มต้นกันที่
Spec ของตัวเครื่องในเบื้องต้นกันก่อน
โดย PadFone 2 นั้นจะมาพร้อมกับ
ชิปประมวลผล Qualcomm
Snapdragon S4 Pro APQ8064 สถาปัตยกรรมแบบ
28 นาโน
หน่วยประมวลผลความเร็ว 1.5
GHz แบบ
Quad-Core นอกจากนี้
หน่วยความจำ (RAM)
ในตัวเครื่อง
ยังสูงถึง 2GB เลยทีเดียว
และนอกจากสเปคของเครื่องที่ค่อนข้างสูงแล้ว
กล้องดิจิตอลด้านหลังของตัวเครื่องในส่วนของสมาร์ทโฟน
ยังมีความละเอียดสูงถึง 13
ล้านพิกเซลอีกด้วย
และสำหรับกล้องด้านหน้า
ก็จะมีความละเอียดอยู่ที่
1.2 ล้านพิกเซล
สำหรับตัวเครื่อง
PadFone 2 ในไต้หวันนั้น
จะมีความจุให้เลือกตั้งแต่
16GB, 32GB และ
64GB แต่สำหรับในยุโรป
จะมีเพียงแค่รุ่น 32GB
และ
64GB เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม
ยังคงน่าเสียดายนิดหน่อยตรงที่คุณจะไม่สามารถเพิ่ม
SD Card ภายนอกได้
สำหรับการเชื่อมต่อนั้น
PadFone2 ก็จะรองรับทั้ง
GPRS/EDGE/3G และ
4G LTE รวมไปถึง
Bluetooth ก็จะเป็นเวอร์ชั่น
4.0 รองรับเทคโนโลยี
NFC และ
GPS นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานฟังวิทยุได้อีกด้วย
สำหรับในเรื่องของหน้าจอนั้น
PadFone 2 จะใช้หน้าจอขนาด
4.7 นิ้ว
เป็นหน้าจอแบบ Super
IPS ซึ่งสีสันที่ได้จากการทดลองใช้นั้นถือว่า
มีความสว่างมากกว่ารุ่นก่อนหน้าอยู่พอสมควร
รวมถึงสีสันมีความสดมากกว่าเดิมอีกด้ว
ส่วนในเรื่องของ
แบตเตอรี่ นั้นจะมีขนาดอยู่ที่
2140 mAh เป็นแบบ
Lithium polymer
ซึ่งในรุ่นก่อนนั้นจะมีขนาดอยู่ที่
1520 mAh
สำหรับ
PadFone Station หรือ
Tablet Docking นั้น
จะมาพร้อมกับหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ถึง
10.1 นิ้ว
แบบ IPS LCD Display
และมีความละเอียดอยู่ที่
1,280 x 800 พิกเซล
นอกจากนี้ในตัวมันเองยังมีแบตเตอรี่ขนาด
5000 mAh อยู่ภายใน
ซึ่ง PadFone Station ตัวนี้
มีการใช้กำลังไฟที่น้อยลงกว่าเดิมพอสมควร
นอกจากนี้ น้ำหนักของ PadFone
Station ยังลดลงจากเดิม
โดยมีน้ำหนักอยู่ที่เพียง
514 กรัมเท่านั้น
ถือว่าลดลงจากเดิมกว่า 30
เปอร์เซ็นเลยทีเดียว
(น้ำหนักของรุ่นเก่าอยู่ที่
724 กรัม)
นอกจากนี้
ตัว PadFone Station
เองยังมาพร้อมกับลำโพงแบบ
Mono LoudSpeaker ซึงเป็นลำโพงที่มีขนาดใหญ่กว่า
Tablet ตัวอื่นๆ
ในตลาดพอสมควร
จึงทำให้เสียงที่ได้นั้นมีความคมชัด
และ มีคุณภาพมากขึ้น
แต่หากคุณต้องการงานร่วมกับ
Headphones ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
อีกทั้งทาง
ASUS ยังได้เตรียม
Accessory อย่าง
Keyboard Dock ที่สามารถใช้งานร่วมกับ
PadFone ได้
รวมไปถึงอุปกรณ์เสริมสำหรับใช้งานกับอุปกรณ์
ที่เป็น Port USB อย่าง
KeyBoard และอื่นๆ
ในอนาคตอีกด้วย จึงทำให้
PadFone
นั้นมีความสามารถที่หลากหลายกว่าเดิมอย่างมากเลยทีเดียว
สำหรับ
แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 4.0
Ice Cream Sandwich
นั้นถือว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกออกแบบมาด้วยความผสมผสานกันระหว่าง
Tablet และ
Smartphone และแน่นอนว่า
บน Asus PadFone 2
จะทำให้คุณใช้งานระบบปฏิบัติการ
Android 4.0 Ice Cream Sandwich
ได้อย่างเต็มที่มากทั้งสุด
ทั้งในหน้าตาแบบ Smartphone
ทั่วไป
และ หน้าตาแบบ Tablet
ในเรื่องของ
Interface นั้นก็จะเป็นเหมือนกับ
สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ทั่วๆ
ไป และในส่วนของ Notification
Bar ก็จะมีออปชั่นสำหรับการตั้งค่าเปิดปิด
Wi-Fi, Mobile Data, Smart Saving,Instant
Dictionary, Wi-Fi Hotspot, Bluetooth, GPS, Bibrate และ
Auto-Rotate เรียกได้ว่า
เปิดปิดกันได้อย่างสะดวกสบาย
มี
ฟังก์ชั่นควบคุมเกี่ยวกับ
ระบบเสียง กับฟังก์ชั่น
Audio Wizard
ที่คุณจะสามารถเลือกรูปแบบเสียงที่ต้องการได้
ทั้ง รูปแบบเสียงสำหรับฟังเพลง,
รูปแบบเสียงสำหรับการชมภาพยนตร์,
เกม
และ เสียงสนทนาเป็นต้น
ซึ่งเมื่อคุณเสียบเข้ากับ
PadFone Station ด้วยลำโพงที่มีขนาดใหญ่พิเศษ
จะช่วยให้เสียงที่ได้มีความคมชัดและสมจริงมากขึ้น
ส่วนในเรื่องของ
Application ต่างๆ
ที่มากับเครื่อง ก็ถือว่าครบครัน
ไม่ว่าจะเป็น แอพพลิเคชั่นสำหรับ
อ่านไฟล์ Word, Excel, Powerpoint
อย่าง
Polaris Office 4.0 รวมไปถึง
Service ของแอนดรอยด์ต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็น Google Map,
Gmail และอื่นๆ
อีกมากมาย
อีกฟังก์ชั่นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ
Instant Dictionary
ที่คุณสามารถเลือกแปลคำศัพท์ต่างๆ
ได้โดยการจิ้มไปที่คำนั้นๆ
ระบบก็จะแปลคำดังกล่าวให้ทันที
โดยเราสามารถเปิดปิดฟังก์ชั่น
Instant Dictionary ได้ตามต้องการ
เมื่อไม่ต้องการที่จะใช้งาน
โดย Instant Dictionary
ในตอนนี้จะรองรับภาษา
จีน, อังกฤษ,
ฝรั่งเศส,
เยอรมัน,
อิตาลี,
เกาหลี,
โปรตุเกส,
รัสเซีย
และ สเปน
และแน่นอนว่ายังคงมีแอพพลิเคชั่นมากมาย
รอคุณอยู่ที่ Google Play
Store รวมไปถึงการรองรับไฟล์วีดีโอที่ถือว่า
ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น MP4/WMV/AVI
ส่วนเมื่อติดตั้งแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติม
ก็จะสามารถรองรับไฟล์ MKV
ด้วยความละเอียด
FULL HD ได้อย่างสบาย
จึงถือได้ว่า ซอฟต์แวร์ต่างๆที่มากับ
PadFone 2 ถือว่าครบครัน
และหากต้องการแอพพลิเคชั่นอื่นๆ
เพิ่มเติมก็สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติม
ได้อีกมากมายในภายหลัง
บทสรุป
สำหรับ Asus PadFone 2
นั้นถือว่าเป็นความลงตัวระหว่าง
Tablet และ
Smartphone ที่เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ทั้ง
สองอย่าง แต่ไม่อยากซื้อ 2
เครื่อง
ซึ่ง Asus PadFone 2
นั้นก็ยังมาพร้อมกับการเชื่อมต่อที่ครบครัน
และรองรับเทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่าง
4G LTE อีกด้วย
ส่วนในเรื่องของสเปคนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงครับ
ถือว่าแรงพอสมควร
แต่อาจจะมีข้อด้อยเล็กน้อยก็ตรงที่
เราจะไม่สามารถเพิ่ม SDCard
จากภายนอกได้เอง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.techmoblog.com
No comments:
Post a Comment